เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 67 นายปลอดประสพ สุรัสวดี อดีตรองนายกรัฐมนตรี โพสต์ในเฟซบุ๊กว่าการเลือกตั้ง สว. ที่อัปลักษณ์ที่สุดในศตวรรษ

การเลือกตั้ง สว.ใหม่หลังจากที่รอคอยมานานถึง 9 ปี ก็มาถึงจนได้ และจบลงอย่างทุลักทุเลและทุเรศที่สุด ในสายเกษตรและประมง มีลูกน้องและลูกศิษย์ติดเข้ามาถึงระดับจังหวัด 3 คน เป็นอดีตข้าราชการระดับ 10 หนึ่งคน 9 สองคน โดยมีการศึกษาระดับปริญญาเอก 2 คน ในสายสิ่งแวดล้อมก็ยังมีอีก 4 คน เป็นระดับ 10 หนึ่งคน ที่เหลือระดับ 9 ทุกคนจบปริญญาโทหมด

ในจำนวนทั้งหมด 7 คนนี้ สุดท้ายได้มาคนเดียว คือ คุณชีวภาพ ชีวะธรรมศิริ หรือที่ผมเรียกว่า ต้อย เขาเคยเป็นรองอธิบดีกรมป่าไม้และผู้ตรวจราชการกระทรวง ทส. เขาลาออกก่อนเกษียณถึง 8 เดือน เพื่อเตรียมการเป็น สว. ซึ่งก็โชคดี (มาก) ที่สุดเขาได้เป็น สว. ของจังหวัดสิงห์บุรี ผมเชื่อมั่นว่า เขาจะทุ่มเททุกอย่างให้กับส่วนรวม เพราะเห็นเขามาแต่เด็ก

ผมพยายามทำความเข้าใจกับการออกแบบการเลือกตั้งครั้งนี้ในประเด็นคุณวุฒิการศึกษาว่า เกิดอะไรขึ้น คือไม่กำหนดระดับปริญญาตรีเป็นเกณฑ์ต่ำสุด ทำให้ผู้ที่ได้เป็น สว. ในครั้งนี้จำนวนไม่น้อยจบ ป.7 หรือมัธยมต้น ส่วนคุณสมบัติซึ่งมันควรจะหมายถึงความเชี่ยวชาญ (หากคิดแบบผู้ที่เจริญแล้ว) จะเห็นว่ามันโหลยโท่ยเหลือเกิน

อะไรกันครับ เป็นผู้เชี่ยวชาญขับรถ เป็นผู้เชี่ยวชาญเสียงตามสาย เป็นผู้เชี่ยวชาญขายผักขายปลา ขายเครื่องสำอาง มันจะไหวหรือครับในยุค AI ซึ่งเขาไปถึงดาวอังคารกันแล้ว ขนาดผมมีปริญญาเอกอยู่ในกระเป๋าถึง 3 ใบ เป็นนักการเมืองมาเกือบ 20 ปี เป็นประธานกรรมาธิการมาแล้ว 2 คณะ และเป็นกรรมธิการอีกกลายสิบคณะจนจำไม่ได้ เวลาประชุมผมยังไม่เข้าใจในเรื่องสารัตถะและครรลองของกฎหมายได้อย่างแจ่มแจ้งเลย

เมื่อวานนี้ผมทำหน้าที่ประธานกรรมาธิการ มีการถกเถียงกันจนหาที่ลงไม่ได้ ผมปวดหัวจนความดันขึ้นต้องเรียกหมอมา แล้วพวกคุณเป็นใคร ที่จะมาทำหน้าที่แบบนี้ หรือคุณนึกว่า มันง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก ลูกศิษย์ผมที่สมัครได้มาเล่าให้ฟังว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ มีการจัดตั้งกันขนานใหญ่อย่างออกหน้าออกตา มีการเสนอเงินทองในช่วงสุดท้ายของการเลือกไขว้ ให้ถึงหัวละ 1 ล้านบาท มีการชวนให้ไปร่วมสัมนาที่โรงแรมเกือบ 20 แห่ง (มีจุดสำคัญ 3 แห่ง) ออกค่าเดินทาง ค่าอาหาร ค่าที่พัก และแถม pocket money สำหรับการแลกเปลี่ยนการลงคะแนน มีทั้งจริงและทั้งปลอม

วันสุดท้ายถามว่า จะเอายังไง ก็ได้รับคำตอบว่า เดี๋ยวจะส่งโผมาให้ 5 ชื่อ ซึ่งเตรียมเผื่อไว้แล้วกันพลาดถึง 3-400 คน (ทำไมรวยกันจัง) ขนาดผมยังรู้ กกต. ซึ่งถ้าตาไม่บอดหูไม่หนวกก็ควรจะรู้มากกว่าผมนะ ไม่อย่างนั้นผมจะคิดว่า คุณซูเอี๋ยกับผู้ร่างกฎหมายมาแต่ต้น สุดท้ายผมอยากจะยืนยันในฐานะผู้เชี่ยวชาญตัวจริงในสายสิ่งแวดล้อมที่ผมเป็นทั้งปลัดกระทรวงและอธิบดีถึง 4 กรมว่า ไอ้ที่ได้มาผมรู้จักแค่คนเดียว ส่วนสายเกษตรที่ผมเคยเป็นอธิบดีมา 3 กรม และเป็นรองปลัดกระทรวง กลับจะหาคนที่รู้จักสักคนยังชั้นยากเลยครับ แล้วอย่างนี้ที่พูดว่า ต้องการหาตัวแทนสาขาอาชีพ มันก็ไม่ใช่สิครับ พูดเสียสวยหรูแต่พออ้าปากเห็นแต่หนอน

ผมขอจบแบบนี้ครับ กกต. ต้องทำงานหนักเพื่อใช้หนี้บาปในครั้งนี้ คุณต้องคัดนักหลอกลวงต้มตุ๋นออกไปให้หมด ซึ่งผมเชื่อว่า อาจมีถึง 100 คน ถ้าทำไม่ได้ก็ขอให้ลาออกเสีย ถ้าเป็นภาษาอังกฤษเขาจะพูดว่า You better go to hell!