เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายภารกิจนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในการลงพื้นที่ภาคอีสาน ระหว่างวันที่ 28 มิ.ย.-2 ก.ค. ที่ จ.ร้อยเอ็ด อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ และการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ที่จังหวัดนครราชสีมา โดยเวลา 12.30 น. นายเศรษฐา และคณะ ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ ไปยังท่าอากาศยานร้อยเอ็ด ตำบลมะอึ อำเภอธวัชบุรี จังหวัดร้อยเอ็ด

 

โดยมี พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) นายกมลสิษฐ์ วงศ์บุตรน้อย รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) นายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง จเรตํารวจแห่งชาติ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.อ.อุกฤษฎ์ บุญตานนท์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก พล.ท.อดุลย์ บุญธรรมเจริญ แม่ทัพภาคที่ 2 และคณะ

จากนั้น นายกฯ เดินทางต่อด้วยรถยนต์โตโยต้า อัลพาร์ด ทะเบียน จท 101 กรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่จุดแรก จ.ร้อยเอ็ด เวลา 13.55 น. เพื่อตรวจเยี่ยมการศึกษาต้นแบบการบูรณาการจัดการปัญหายาเสพติดในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด “โครงการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดตำบลอุ่มเม้า” ที่วัดโกศลรังสฤษฎ์ ต.อุ่มเม้า อ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด 

โดยเมื่อนายกฯ เดินทางถึง นายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ให้การต้อนรับ จากนั้นนายกฯ รับฟังผลการบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด ก่อนผู้ว่าฯ ร้อยเอ็ด กล่าวรายงานว่า ในห้องประชุมแห่งนี้ จะมีกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้เคยเสพซึ่งเป็นสีเขียวจำนวน 160 คน ส่วนที่เหลือจะเป็นชุดปฏิบัติการประจำตำบล ซึ่งอำเภอธวัชบุรี ตั้งไว้ทั้งหมด 12 ตำบล โดยจังหวัดร้อยเอ็ดได้เตรียมข้อมูลในส่วนของการ Re X-ray ผู้ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดไว้ตั้งแต่ต้นปี 2567 ซึ่ง อ.ธวัชบุรี น่าจะเป็นอำเภอต้นแบบที่จะดำเนินการป้องกันปราบปรามยาเสพติดอย่างจริงจัง จึงได้กำหนดแนวทาง และทำโครงการตั้งชุดปฏิบัติการประจำตำบลขึ้นมา มอบหมายให้ลงดำเนินการในพื้นที่เอกซเรย์อีกรอบ ซึ่งผลปรากฏค่อนข้างน่าตกใจ จากเดิมที่เราเคย Re X-ray มีผู้เกี่ยวข้องในระดับผู้เสพผู้ติด ไม่ถึง 200 คน มีผู้ค้าจำนวน 10 กว่าราย

นายกฯ กล่าวว่า หลังจา กRe X-ray รอบใหม่ ปรากฏมีผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดขึ้นไปเกิน 1,600 คน ส่วนผู้ค้า 60 กว่าราย ทำให้เราต้องบูรณาการในส่วนของตำรวจ ทหาร พลเรือน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และอาสาสมัครต่างๆ ช่วยกันระดมแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง ทั้งนี้ การแก้ไขปัญหายาเสพติดที่อำเภอธวัชบุรี ในระยะเวลา 1 เดือนที่ผ่านมา หลังจากวันที่ 30 มิ.ย. นี้ อาจจะเรียกได้ว่า อ.ธวัชบุรี จะเป็นอำเภอที่ปลอดจากผู้เสพ ผู้ติดยาอย่างแท้จริง และยืนยันว่าเราจะทำการรักษาความเป็นอำเภอปลอดยาเสพติดอย่างนี้ไว้ตลอดไป

‘นายกฯ’ ติดตามแก้ปัญหายาเสพติดเมืองธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด

ขณะที่นายกฯ กล่าวต่อว่า วันนี้เรามาชัดเจน ตนลงพื้นที่อำเภอนี้ จุดประสงค์เดียวมาดูแลเรื่องยาเสพติด ฉะนั้นรัฐบาลนี้ให้ความสำคัญอย่างยิ่ง เจ้าหน้าที่รัฐทุกส่วนมาวันนี้ มาช่วยกันดูแลปัญหานี้ เข้าใจว่าเรื่องนี้เป็นปัญหาใหญ่ของสังคมไทยมาโดยตลอด หลายท่านในที่นี้เคยหลงผิดเคยเสพยามา แต่ไม่เป็นไร รัฐบาลให้ความช่วยเหลือตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ บำบัดรักษา หาอาชีพฝึกอาชีพให้ เพื่อให้พวกท่านกลับไปสู่สังคมที่มีเกียรติและมีศักดิ์ศรี สามารถทำงานหาเลี้ยงชีพได้ โดยธำรงไว้ซึ่งความปลอดภัยจากยาเสพติด 

นายกฯ กล่าวอีกว่า ซึ่งทางผู้ว่าราชการจังหวัดประกาศแล้ว ภายในวันที่ 30 มิ.ย. นี้ จะไม่มียาเสพติด เป็นพื้นที่สีขาว ซึ่งจากการตรวจคัดกรองยังพบว่ามีอยู่ แต่ก็ถือว่าใกล้เคียงที่จะเป็นอำเภอสีขาวได้ แต่เรามีเป้าหมายหลัก ภายในสิ้นเดือน ก.ย. ปีนี้ จ.ร้อยเอ็ด ทั้งจังหวัดจะเป็นพื้นที่จังหวัดสีขาว ปลอดยาเสพติด ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่าน ประกอบอาชีพกลับสู่ครอบครัว ทำมาหากินอย่างมีเกียรติมีศักดิ์ศรี ไม่กลับไปยุ่งกับยาเสพติดอีก ขอให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทุกท่านที่ทำมาจนถึงวันนี้ 28 มิ.ย. อีกนิดเดียวจะสิ้นเดือน หวังจะทำกันต่อไปจนประสบความสำเร็จ.