เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. เวลา 11.50 น. ที่สำนักงาน​คณะกรรมการ​การ​เลือกตั้ง​ (กกต.)​ กลุ่มผู้สมัคร สว.กลุ่ม 2 กฎหมายและกระบวนการยุติธรรม กลุ่ม 3 กลุ่มการศึกษา และกลุ่ม 14 กลุ่มสตรี เข้ายื่นคำร้องต่อ กกต.เพื่อขอให้ตรวจสอบกระบวนการเลือก สว.ระดับประเทศ โดยนางกุสุมาลวตี ศิริโกมุท ผู้สมัคร สว. กลุ่มสตรี กล่าวว่า อยากให้ กกต.ตรวจสอบการบล็อกโหวต เพราะทุกคะแนนทุกหีบเหมือนกันหมด แสดงให้เห็นว่ามีโพยเป็นการทำลายประชาธิปไตย นอกจากนี้คุณสมบัติก็ยังไม่ตรงกับกลุ่มอาชีพ เช่น นักวิทยาศาสตร์ จบ ป.4 สื่อมวลชนเป็นคนพูดเสียงตามสาย มันผิดตั้งแต่ขั้นตอนการรับสมัครในครั้งแรกแล้ว นอกจากนี้ ยังพบว่า ทั้ง 10 โรงแรม ที่จองให้กับคนที่มาจากต่างจังหวัด ตามกลุ่มต่างๆ ที่เขาได้จัดสรรเพื่อมาฮั้วกัน มีการเข้าพักจัดเลี้ยง จ่ายเงินกันตรงนั้น ขอให้ กกต.ไปสืบสวน ส่วนตัวเชื่อว่ามีความพยายามทำลายพยานหลักฐาน

นางกุสุมาลวตี กล่าวว่า สิ่งที่ตนเป็นห่วงคือเราจะได้รับความเป็นธรรมหรือไม่ เพราะขณะที่ นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. เป็นคนบุรีรัมย์ เป็นอดีตคณะทำงานของนายชัย ชิดชอบ และพี่ชายเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ​ โดยการสนับสนุนของคนบางคน และคนบางพรรค เพราะฉะนั้นการกระทำเยี่ยงนี้ เป็นการกระทำที่อุกอาจไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายทั้งสิ้น ยืนยันว่า มีการซื้อโหวตกันจริงๆ เราหาพยานหลักฐานได้  ก็เชื่อว่าพยานแวดล้อมเข้าองค์ประกอบล้านเปอร์เซ็นต์ ซึ่งหลังจากนี้จะยื่นร้องต่อศาลฎีกาในกรณีดังกล่าว

ด้าน พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว อดีตผู้ช่วย ผบ.ตร. ผู้สมัคร สว. ในกลุ่มกฎหมาย กล่าวว่า มีความพยายามให้โหวตเตอร์ เลือกคนที่เป็นเป้าหมาย และในช่วงการเลือกไขว้ก็มีการเขียนโพยไว้ โดยตนเหลือบมองไปเห็นเพื่อนข้างๆ ยังไม่อ่านใบสว. 3 จนจบก็ลงคะแนนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ในเรื่องนี้ กกต.ต้องใช้ความกล้าหาญในการตรวจสอบ ย้ำว่า ทั้งหมดนี้ตนไม่ได้พูดลอยๆ เพราะหลักฐานอยู่ที่ใบคะแนนทุกใบที่อยู่ในกล่อง เชื่อว่าทำได้ไม่ยาก เพียง 1 วันก็รู้ว่าใครเลือกใครบ้าง  ตนยินดีที่จะเข้าให้ข้อมูลเพิ่มเติม อยากให้ กกต.อย่าเพิ่งรีบประกาศผล

เมื่อถามว่าเงื่อนไขการล็อบบี้ หากไม่มีผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้องก็ไม่ผิดกฎหมาย พล.ต.ท.คำรบ กล่าวว่า ไม่ใช่ผลประโยชน์อย่างเดียว ต้องเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรมด้วย การจัดตั้งโดยไม่สุจริต ยุติธรรม ไม่จำเป็นต้องมีผลประโยชน์ ไม่จำเป็นต้องมีเรื่องเงินเรื่องทอง

ทั้งนี้ พล.ต.ท.คำรบ ได้โชว์พยานหลักฐานที่เป็นโพยการลงคะแนน และกล่าวว่า “เป็นโพยที่ตกในห้องน้ำ พอดีผมเป็นตำรวจ เลยเก็บหลักฐานทุกชนิด ผมได้โพยมาแล้วก็ไปเทียบกับคะแนนที่ได้มาเป๊ะ”

พล.ต.ท.คำรบ กล่าวต่อว่า  ส่วนเรื่องการยุบพรรคการเมือง วันนี้ตนมายื่นร้องแค่กระบวนการเลือก ส่วนกรณีพรรคการเมืองมาเกี่ยวข้องหากมีหลักฐานก็ให้ไปเติมเอาเป็นรายบุคคล อย่างกลุ่มกฎหมาย จะเห็นว่า คนที่ได้รับเลือกกลับไม่ได้จบกฎหมาย แต่ทำอาชีพค้าขาย เป็นผู้ใหญ่บ้าน และจบราชภัฏ​มา และประวัติก็เขียนแค่บรรทัดเดียว

ขณะที่ นายจิรัฏฐ์ แจ่มสว่าง อดีตที่ปรึกษารัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​ศึกษา​ธิการ และผู้สมัคร สว.กลุ่มการศึกษา กล่าวว่า จริงๆ หลักฐานทั้งหลายมีแต่อยู่ในกล่องเลือกตั้ง เพียงแค่นำมาสแกนเก็บเข้าไปในระบบแล้วตรวจสอบว่าบัตรใดที่มีการลงคะแนนซ้ำกันมากๆ อย่างที่ 2 คือการตรวจสอบคุณสมบัติ​ ต้องไปตรวจสอบคุณสมบัติที่ไม่ตรงปก ที่ตนแซวว่า “เสื้อลายโปรไฟล์สั้น” คนเหล่านี้จะได้รับการโหวต อันนี้เป็นเรื่องจริงว่า บุคคลเหล่านี้เป็นบุคคลต้องสงสัย แล้วนำคนเหล่านี้มาสอบ มันจะย้อนไปถึงในเส้นทางว่าสัมพันธ์​กับบุคคล หรือสายสีใด จึงสามารถไปเล่นงานพวกเขาได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการสัมภาษณ์​ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน ได้เดินทางมาถึง กกต.พอดี กล่าวถึงกรณีที่มีการระบุว่า ตนจะเดินทางเข้าร่วมกับผู้สมัคร สว.หลายคนเพื่อให้ตรวจกรณีการทุจริต​เลือก สว. ว่า ก่อนหน้านี้ได้มีคนแอบอ้างว่า ตนจะมาร้อง กกต. วันนี้ โดยส่งไปในกลุ่มของผู้สมัคร สว.หลายกลุ่ม ยืนยันว่าไม่เป็นเรื่องจริง น่าจะโดนใครปั่นและหลอกแล้ว.