ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมวชิรปราการ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกำแพงเพชร นายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร ได้มอบหมายให้ นายอนุชา พัสถาน รองผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร เป็นประธานเปิดการประชุมคณะอนุกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นระดับจังหวัดกำแพงเพชร ครั้งที่ 1/2567 โดยมี พ.ต.อ.ชยินธร สุคนธร รอง ผบก.ภ.จว.กำแพงเพชร นางสาววิมลรัตน์ รัชชุกุล พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดฯ นายอุริศ แช่มสุวรรณวงษ์ สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดฯ นางเยาวลักษณ์ เครือคำขาว ประชาสัมพันธ์จังหวัดฯ นางวิมานรดี คงอรุณ นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการพิเศษ พร้อมด้วยผู้แทนศูนย์อนามัยที่ 3 นครสวรรค์ หัวหน้าส่วนราชการ ผู้แทนองค์กร หน่วยงาน ภาครัฐ และภาคเอกชน ตลอดจนผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมในการประชุม 
           

นายอนุชา กล่าวว่า จังหวัด โดยนายชาธิป รุจนเสรี ได้เล็งเห็นความสำคัญถึงปัญหาการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่นหรือวัยเรียน ซึ่งที่ผ่านมาจังหวัดกำแพงเพชรมีสถิติค่อนข้างสูงอยู่ในลำดับต้นๆ ของประเทศ ดังนั้นการขับเคลื่อนปัญหาดังกล่าวให้ลดน้อยลงอย่างเป็นรูปธรรมได้นั้น จึงได้มีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการฯ ขึ้น เพื่อให้การดำเนินงานการป้องกันและแก้ไขปัญหา ครอบคลุมการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์การป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ให้มีประสิทธิภาพ ภายใต้พระราชบัญญัติป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น พ.ศ. 2559

พร้อมจัดให้มีการประชุมฯ เพื่อให้คณะอนุกรรมการได้ร่วมกันรับทราบแนวทางกระบวนการขับเคลื่อนการป้องกันแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น แบบบูรณาการทุกภาคีเครือข่ายของจังหวัด ตามยุทธศาสตร์ในการขับเคลื่อนทั้ง 5 ยุทธศาสตร์ ดังนี้ ยุทธศาสตร์ที่ 1 การพัฒนาระบบการศึกษาที่ส่งเสริมการเรียนรู้ด้านเพศวิถีศึกษาและทักษะชีวิตที่มีคุณภาพและมีระบบการดูแลช่วยเหลือที่เหมาะสมยุทธศาสตร์ที่ 2 ส่งเสริมบทบาทครอบครัว ชุมชน และสถานประกอบกิจการในการเลี้ยง ดู สร้างสัมพันธภาพและการสื่อสารด้านสุขภาวะทางเพศของวัยรุ่น ยุทธศาสตร์ที่ 3 พัฒนาระบบบริการสุขภาพทางเพศและอนามัยการเจริญพันธุ์ที่มีคุณภาพและเป็นมิตรยุทธศาสตร์ที่ 4 พัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือ การคุ้มครองสิทธิอนามัยการเจริญพันธุ์และการจัดสวัสติการสังคมในวัยรุ่น และยุทธศาสตร์ที่ 5 ส่งเสริมการบูรณาการการจัดการฐานข้อมูล งานวิจัย และการจัดความรู้ โดยในแต่ละยุทธศาสตร์ จะมีหน่วยงานหลักและหน่วยงานรองร่วมกันรับผิดชอบ พร้อมบูรณาการในการทำงาน ทั้งการให้ความรู้ ความเข้าใจ แก่เยาวชนในวัยเรียนหรือกลุ่มเป้าหมาย รวมถึงการสร้างกิจกรรมปลูกฝังเพื่อให้ทุกคนมีความตระหนักถึงปัญหาร่วมกัน พร้อมให้มีการดำเนินกิจกรรมดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง อันที่จะนำไปสู่การแก้ปัญหาอย่างจริงจังต่อไป