เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2567 นายธสรณ์อัฑฒ์ ธนิทธิพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค เปิดเผยว่า ได้มอบหมายศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ สคบ. นำโดย นายเลิศศักดิ์ รักธรรม ผู้อำนวยการกองคุ้มครองผู้บริโภคด้านสัญญา ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ สคบ. นายฤทธิรอน ทวีทรัพย์ ผู้อำนวยการฝ่ายรับเรื่องราวร้องทุกข์ ปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการพิเศษ สคบ. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ สคบ. ลงพื้นที่ตรวจสอบร้านค้าซึ่งลักลอบเปิดร้านขายบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า ในพื้นที่ตัวเมืองจังหวัดระยอง ภายหลังจากที่มีประชาชนร้องเรียน สคบ. หลายราย พบมีการลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้า ใกล้กับสถานศึกษา มีเด็กและเยาวชนไปซื้อมาสูบเป็นจำนวนมากจนระบาดเข้าไปในรั้วสถานศึกษาหลายแห่งทั่วจังหวัด

สร้างความวิตกกังวลผู้ปกครองและครูอาจารย์เป็นอย่างมาก เพราะกลัวว่าจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพลูกหลานตัวเอง รวมถึงผลกระทบต่อพัฒนาการทางด้านสมองที่อยู่ในช่วงกำลังศึกษาเล่าเรียน และเป็นอนาคตของชาติ โดยเจ้าหน้าที่ได้เฝ้าสังเกตการณ์ลักลอบขายในพื้นที่เมืองระยอง พบว่าร้านขายบุหรี่ไฟฟ้าต่างๆ เปลี่ยนวิธีการขายโดยปิดร้านในเวลากลางวัน โดยหลบเลี่ยงการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ มาเปิดร้านขายบุหรี่ไฟฟ้าในเวลากลางคืน

ต่อมาในเวลา 21.15 น. ศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ สคบ. เปิดปฏิบัติการตลบหลังผู้ลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้าลงพื้นที่ตรวจสอบเป้าหมายตามที่ได้รับแจ้งเบาะแส สามารถยึดบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าได้กว่า 7,500 ชิ้น มูลค่าของกลางประมาณ 2.6 ล้านบาท จึงส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองระยอง พร้อมทั้งแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ขายทั้งหมด

นายธสรณ์อัฑฒ์ ธนิทธิพันธ์ เลขาธิการ สคบ. กล่าวว่า ปัจจุบันปัญหาการลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้ามีการระบาดเข้าไปสู่สถานศึกษามากขึ้น โดย น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้มีความเป็นห่วงสถานการณ์ที่มีการพุ่งเป้าไปที่เด็กและเยาวชน จึงได้มอบนโยบายให้ สคบ. บังคับใช้กฎหมายอย่างต่อเนื่องและเด็ดขาด ควบคู่กับการให้ความรู้ถึงพิษภัยของบุหรี่ไฟฟ้าให้มากขึ้น และบูรณาการกับทุกหน่วยงานอย่างเคร่งครัด

ซึ่งการลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า เป็นความผิดตามคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองที่ 9/2558 เรื่อง ห้ามขายหรือห้ามให้บริการสินค้า “บารากู่ บารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวจาบารากู่ น้ำยาสำหรับเติมบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า” ซึ่งหากว่าผู้ใดฝ่าฝืนเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ผู้ใดพบเห็นการลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้า สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่ หรือแจ้ง สคบ. ได้ที่สายด่วน 1166 เว็บไซต์ www.ocpb.go.th หรือแอปพลิเคชัน OCPB Connect รวมทั้งศูนย์ดำรงธรรม ในทุกจังหวัด