สำนักข่าวซินหัวรายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. ว่า ซีทริป ซึ่งเป็นผู้ให้บริการด้านการท่องเที่ยวชั้นนำของจีน เปิดเผยรายงานเกี่ยวกับแนวโน้มการเดินทาง ในช่วงเทศกาลแข่งเรือมังกรประจำปีนี้ ว่ามียอดการจองสำหรับการท่องเที่ยวขาเข้าเพิ่มขึ้นอย่างมากถึง 115% เมื่อเทียบแบบปีต่อปี
ปัจจุบัน ทิวทัศน์ทางธรรมชาติและประวัติศาสตร์วัฒนธรรมของจีน ยังคงดึงดูดนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศได้อย่างมาก ทั้งยังมีสถานที่สำคัญใหม่ ๆ เช่น ท่าอากาศยานต้าซิง ย่านศูนย์กลางธุรกิจปักกิ่ง หอคอยกว่างโจว รถไฟความเร็วสูงปักกิ่ง-เซี่ยงไฮ้ พระราชวังต้องห้าม กองทัพทหารดินเผา โบราณสถานอินซวี และโบราณสถานเหลียงจู่
จีนตัดสินใจขยายนโยบายปลอดวีซ่าสำหรับการเที่ยวระยะสั้น สำหรับนักเดินทางจากประเทศต่าง ๆ 12 แห่ง จนถึงสิ้นปี 2568 เพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนระหว่างชาวจีนกับชาวต่างชาติ
นโยบายดังกล่าว เอื้อให้ผู้ถือหนังสือเดินทางประเภทธรรมดาของฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี เนเธอร์แลนด์ สเปน มาเลเซีย สวิตเซอร์แลนด์ ไอร์แลนด์ ฮังการี ออสเตรีย เบลเยียม และลักเซมเบิร์ก สามารถเดินทางเข้าจีน และพำนักอยู่ในประเทศได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า เป็นเวลานานสูงสุด 15 วัน ด้วยวัตถุประสงค์เพื่อธุรกิจ การท่องเที่ยว การเยี่ยมญาติมิตร และการต่อเครื่องบิน
ข้อมูลจากซีทริประบุว่า นับตั้งแต่ต้นปีนี้ มีปริมาณคำสั่งซื้อของนักท่องเที่ยวจากทั้ง 12 ประเทศ ที่เดินทางมายังแผ่นดินใหญ่ของจีนเพิ่มขึ้น 341% เมื่อเทียบแบบปีต่อปี
ทั้งนี้ ประเทศซึ่งมีนักท่องเที่ยวเดินทางมายังจีนมากที่สุด ได้แก่ มาเลเซีย เยอรมนี ฝรั่งเศส อิตาลี และเนเธอร์แลนด์ โดยปริมาณการสั่งซื้อของนักท่องเที่ยวขาเข้าจากมาเลเซียเพิ่มขึ้น 485% เมื่อเทียบแบบปีต่อปี ขณะที่สถิติของเยอรมนีเพิ่มขึ้น 223% และฝรั่งเศสเพิ่มขึ้น 273%
ด้านข้อมูลจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองแห่งชาติของจีน ระบุว่าปัจจุบัน พลเมืองจาก 54 ประเทศ เช่น สหรัฐ แคนาดา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ได้รับการยกเว้นวีซ่าระหว่างการเดินทางต่อเครื่องที่ใช้เวลา 72 หรือ 144 ชั่วโมง เพื่อมุ่งหน้าไปยังประเทศที่สาม
นอกจากนี้ จีนใช้นโยบายตั้งแต่วันที่ 15 พ.ค. ที่ผ่านมา อนุญาตให้กลุ่มท่องเที่ยว ซึ่งมีชาวต่างชาติตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ที่จัดขึ้นหรือรับโดยตัวแทนท่องเที่ยวของจีน เข้าจีนได้โดยไม่ต้องใช้วีซ่าบนเรือสำราญผ่านท่าเรือสำราญในเมือง 13 แห่งของจีน เช่น เซี่ยงไฮ้ เทียนจิน กว่างโจว และซานย่า.
ข้อมูล : XINHUA
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES
(เรียบเรียงโดย Tian Shenyoujia จาก Xinhua Silk Road, https://en.imsilkroad.com/p/340604.html)
