สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงไนโรบี ประเทศเคนยา เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. ว่าประธานาธิบดีวิลเลียม รูโต ผู้นำเคนยา แถลงเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ยืนยันจะไม่ลงนามในกฎหมายการคลังฉบับใหม่ ที่มีเนื้อหารวมถึงมาตรการขึ้นภาษีหลายรายการ ซึ่งเป็นชนวนเหตุให้เกิดการประท้วงครั้งใหญ่ทั่วประเทศในสัปดาห์นี้ และมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 22 ราย ในจำนวนนี้อย่างน้อย 19 ราย เป็นผู้เสียชีวิตในกรุงไนโรบี และมีผู้ได้รับบาดเจ็บมากกว่า 300 คนทั่วประเทศ
President Ruto of Kenya has abandoned planned tax rises in response to deadly protests on Tuesday. William Ruto said huge protests had made it clear that people wanted nothing to do with the legislation. pic.twitter.com/64MVrz6pbC
— BBC News Africa (@BBCAfrica) June 26, 2024
ทั้งนี้ การที่รูโตไม่ลงนาม จะเท่ากับเป็นการเริ่มต้นกระบวนการเพิกถอนกฎหมายโดยปริยาย อย่างไรก็ตาม บรรดาแกนนำของผู้ประท้วงที่ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนหนุ่มสาว ยังคงไม่พอใจกับท่าทีของรัฐบาล โดยมองว่า “เป็นเพียงการโฆษณาชวนเชื่อเท่านั้น”
![](https://t.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2024/06/AFP__20240626__34ZD99C__v3__HighRes__KenyaPoliticsEconomyUnrest-1280x853.jpg)
ปัจจุบัน เคนยาเป็นหนึ่งในประเทศซึ่งมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจต่อเนื่องที่สุด ในภูมิภาคตะวันออกของทวีปแอฟริกา แต่ประชากรราว 1 ใน 3 จากทั้งหมดประมาณ 52 ล้านคน ยังคงมีคุณภาพชีวิตอยู่ในระดับยากจน
นอกจากนี้ สถานะการคลังของเคนยาไม่สู้ดีนักในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากเงินเคนยาชิลลิงอ่อนค่าอย่างหนัก ส่งผลให้การชำระหนี้เป็นสกุลเงินต่างประเทศยิ่งสูง และรัฐบาลของรูโตซึ่งเข้ามาบริหารประเทศ เมื่อปี 2565 ยืนกรานมาตลอด ว่าการขึ้นภาษีเป็นหนึ่งในมาตรการจำเป็น เพื่อบรรเทาภาระหนี้สาธารณะของประเทศ ที่ตอนนี้สูงถึง 10 ล้านล้านเคนยาชิลลิง (ราว 2.86 ล้านล้านบาท) หรือเทียบเท่า 70% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี)
แม้เมื่อไม่นานมานี้ รัฐบาลเคนยายอมยกเลิกแผนการขึ้นภาษีขนมปัง รถยนต์ การใช้บริการการเงินและโทรศัพท์มือถือ อย่างไรก็ตาม กระทรวงการคลังประเมินว่า เคนยายังคงขาดดุลงบประมาณอีกราว 200,000 ล้านเคนยาชิลลิง (ราว 57,221.70 ล้านบาท).
เครดิตภาพ : AFP