เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.67 ที่ประเทศมาเลเซีย นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา และประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งอยู่ระหว่างการเดินทางเยือนประเทศมาเลเซียอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของรัฐสภามาเลเซีย ระหว่างวันที่ 25-27 มิ.ย.67 กล่าวถึงกรณีที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ถูกคดีคำร้อง และคดีความต่าง ๆ รุมเร้า จะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาลหรือไม่ โดยได้หัวเราะก่อนกล่าวว่า “ก็การเมือง” ซึ่งเป็นเรื่องปกติ แต่เสียงของรัฐบาลในการลงมติรับหลักการร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรที่ผ่านมานั้น มีเสียงของรัฐบาลรับหลักการถึง 311 เสียง และงดออกเสียงไปเพียง 2 เสียง คือ ประธานสภาผู้แทนราษฎร และรองประธานสภาผู้แทนราษฎร จึงถือเป็น 313 เสียง ขาดไปเพียง 1 เสียงจาก 314 เสียงเท่านั้น สะท้อนว่า เสียงของพรรคร่วมรัฐบาล ยังแน่นแฟ้น
“แต่เรื่องการเมืองเอาแน่ไม่ได้ เพราะจากการที่ผมได้พบกับนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในการเดินทางเยือนมาเลเซียนั้น นายอันวาร์ ผมถามท่านว่าการเมืองมาเลเซียเป็นอย่างไรท่านเล่าว่า ก็สงบเรียบร้อยดี แต่อย่าดูเฉพาะข้างบน เพราะข้างล่างยังสะเปะสะปะพอสมควร และคงเหมือนกับของไทยที่ข้างบนเรียบร้อยดี แต่ข้างล่างไม่รู้อะไร เพราะว่านี่คือการเมือง“นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าว
เมื่อถามว่า ดูแล้วข้างล่างการเมืองไทยเป็นอย่างไร ประธานรัฐสภา กล่าวว่า ก็การเมือง เพราะการเมืองเป็นเรื่องธรรมดา หากสงบทั้งข้างบน และข้างล่าง ก็คงไม่ใช่การเมือง แต่ทั้งหมด หากรัฐบาลทำเพื่อประชาชนก็คงไม่มีปัญหา แต่ถ้าความไม่สงบเกิดขึ้นเพราะรัฐบาลต้องการทำเพื่อประชาชน ก็ไม่มีปัญหาเช่นเดียวกัน เพราะการเมืองมาถึงขั้นนี้ ทั้งการจัดตั้งรัฐบาล รัฐบาลมีเสียงมั่นคง ความบกพร่องของบทเฉพาะกาลในรัฐธรรมนูญหมดไป สว.ชุดใหม่กำลังจะเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ การแก้ไขพ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ก็เป็นไปในทางที่ดี
“ผมอยากให้กำลังใจว่า การเมืองของเรากำลังจะเดินก้าวไปสู่ความก้าวหน้า ในวันข้างหน้า จึงขอให้ทุกคนมีความอดทน เพื่อเห็นรัฐธรรมนูญใหม่ เห็นการเลือกตั้งที่สงบใหม่ เห็นการเลือก สว.แบบใหม่ 200 คนมาทำงานในสภาฯ เป็นอย่างไรจะลงตัวอย่างไรก็ต้องใช้เวลาสักนิดอย่างน้อย หลังการเลือกตั้งคราวหน้า ก็น่าจะดีขึ้นไปตามลำดับ“นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าว
เมื่อถามถึง การเคลื่อนไหวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะกระทบต่อการเมืองไทยหรือไม่ นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า นายทักษิณ เป็นบุคคลที่มีผู้เคารพ และให้ความนับถือ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ เพราะในการเดินทางเยือนมาเลเซียครั้งนี้ ก็มีนักการเมืองของมาเลเซียสอบถามถึงนายทักษิณว่าสบายดีหรือไม่ ซึ่งตนก็ไม่เคยได้เข้าพบนายทักษิณ เขาจึงได้ฝากความคิดถึงนายทักษิณด้วย เนื่องจากนายทักษิณเป็นคนเก่งและเป็นที่รู้จักของคนในหลายประเทศ ดังนั้น เพราะฉะนั้นการเคลื่อนไหวของนายทักษิณ ก็นเป็นธรรมดาที่จะเป็นที่สนใจของประชาชนทั่วไป
เมื่อถามย้ำว่า จะกระทบต่อการเมืองไทยหรือไม่นั้น ประธานรัฐสภา กล่าวว่า ไม่รู้ว่าจะกระทบด้านไหน ถ้ากระทบไปในด้านที่ดี ก็มีประโยชน์ แต่ถ้ากระทบไปในด้านที่ไม่ดี ก็ไม่มีประโยชน์ ซึ่งขึ้นอยู่กับสถาการณ์ และผลกระทบที่จะเกิดขึ้น ดังนั้นหากนายทักษิณ ใช้ประสบการณ์ต่าง ๆ เพื่อให้บ้านเมืองเป็นไปในทางที่ดี โดยเฉพาะประสบการณ์ที่อยู่ต่างประเทศมา ทั้งเศรษฐกิจ หรืออื่น ๆ ตนคิดว่าก็น่าจะเป็นประโยชน์ได้ แต่ถ้าบางอย่างที่เป็นความขัดแย้ง อย่างนั้นก็ไม่มีประโยชน์.
