พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ นำคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ, เจ้าหน้าที่ และผู้แทนนักกีฬาทีมชาติ เฝ้าทูลละอองธุรีพระบาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อรับพระราชทานพระบรมราโชวาท ในโอกาสที่จะเดินทางไปร่วมการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 33 “ปารีสเกมส์ 2024” ระหว่างวันที่ 26 ก.ค.-11 ส.ค. 2567 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ณ พระที่ที่นั่งอัมพรสถาน เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. ที่ผ่านมา

โอกาสนี้ได้พระราชทานพระบรมราโชวาทให้เจ้าหน้าที่และนักกีฬาไทย เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ โดย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงตรัสว่า การแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ เช่น กีฬาโอลิมปิกนี้นับว่าเป็นเกียรติอย่างสูง ทั้งเป็นเกียรติแก่ประเทศและเกียรติแก่บุคคล กล่าวคือ การที่ประเทศไทย มีนักกีฬาที่สามารถไปแข่งขันในกีฬาที่ถือกันว่าเป็นนัดสำคัญที่สุดของโลก ก็นับเป็นเกียรติแก่ประเทศอย่างน่าภูมิใจ สู่เกียรติแก่บุคคลที่มาจากการที่แต่ละคนจะได้แสดงความสามารถให้เป็นที่ประจักษ์

ทั้งความสามารถทางกีฬาและการปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับหน้าที่ของตน จึงขอให้ทุกคนรักษาเกียรตินี้ไว้ และตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ในการแข่งขันอย่างเต็มกำลังความสามารถ ด้วยน้ำใจนักกีฬา และความเป็นมิตรไมตรีต่อทุกคน ทุกชาติ เพื่อเชิดชูเกียรติภูมิของชาติไทย ให้เป็นที่ประจักษ์แก่นานาประเทศชาติต่อไป

สำหรับ “ปารีสเกมส์ 2024” ครั้งนี้ มีนักกีฬาทีมชาติไทย คว้าโควตามาได้แล้ว 51 ที่นั่ง ประกอบด้วย ยิงปืน 3 ที่นั่ง ได้แก่ ธันยพร พฤกษากร ประเภทปืนสั้น 25 เมตร หญิง, ทองผาภูมิ วงศ์สุขดี ประเภทปืนยาวบุคคลชาย 3 ท่า 50 เมตร, กมลลักษณ์ แสนชา ประเภทปืนสั้นอัดลมหญิง ระยะ 10 เมตร

จักรยาน 5 ที่นั่ง ได้แก่ โกเมธ สุขประเสริฐ ประเภทจักรยานบีเอ็มเอ็กซ์เรซซิ่ง ชาย, โรดเรซชาย (รอประกาศรายชื่อ), โรดเรซหญิง (รอประกาศรายชื่อ), ไทม์ไทรอัล บุคคลหญิง (รอประกาศรายชื่อ), จาย อังค์สุธาสาวิทย์ ประเภทคีริน สปรินท์ชาย

มวยสากล 8 ที่นั่ง ได้แก่ ธิติสรรณ์ ปั้นโหมด รุ่น 51 กก.ชาย, บรรจง สินศิริ รุ่น 64 กก.ชาย, จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง รุ่น 66 กก. หญิง, จุฑามาศ รักสัตย์ รุ่น 50 กก. หญิง, ธนัญญา สมนึก รุ่น 60 กก. หญิง, จุฑามาศ จิตรพงศ์ รุ่น 54 กก.หญิง, ใบสน มณีก้อน รุ่น 75 กก. หญิง, วีระพล จงจอหอ รุ่น 80 กก ชาย

ปัญจกีฬาสมัยใหม่ 1 ที่นั่ง ได้แก่ ภูริช โยเฮือง ประเภท Laser-Run, เรือใบ 4 ที่นั่ง ได้แก่ เบญญาภา จันทวรรณ ประเภทฟอร์มูล่า ไคต์ หญิง, โจนาธาน เวสตัน ประเภทฟอร์มูล่า ไคต์ ชาย, เรือใบ ดิงกี้ ILCA7 อาทิตย์ มิคาอิล โรมานีก, เรือใบ ดิงกี้ ILCA6 โซเฟีย มอนต์โกเมรี่, ขี่ม้า 1 ที่นั่ง ได้แก่ “ปรีดิ์อัญ” ชนกภรณ์ การุณยธัช ประเภทกระโดดข้ามเครื่องกีด บุคคลหญิง

เทควันโด 3 ที่นั่ง ได้แก่ พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ รุ่น 49 กก.หญิง, ศศิกานต์ ทองจันทร์ รุ่น 67 ก.ก.หญิง, บัลลังก์ ทับทิมทอง รุ่น 68 ก.ก.ชาย, เทเบิลเทนนิส 3 ที่นั่ง ได้แก่ ประเภททีมหญิง (สุธาสินี เสวตรบุตร/จิณห์นิภา เสวตรบุตร/อรวรรณ พาระนัง-ได้แข่งประเภทหญิงเดี่ยว 2 คน), เรือพาย 1 ที่นั่ง ได้แก่ เปรมณัฏฐ์ วัฒนานุสิทธิ์ ประเภทเรือกรรเชียง 1 คนชายพายคู่

ยกน้ำหนัก 4 ที่นั่ง ได้แก่ ธีรพงศ์ ศิลาชัย รุ่น 61 กก.ชาย, วีรพล วิชุมา รุ่น 73 กก.ชาย, สุรจนา คำเบ้า รุ่น 49 กก.หญิง, ดวงอักษร ใจดี รุ่นมากกว่า 87 กก.หญิง

แบดมินตัน 9 ที่นั่ง ได้แก่ ประเภทหญิงเดี่ยว รัชนก อินทนนท์, ศุภนิดา เกตุทอง, ประเภทชายเดี่ยว กุลวุฒิ วิทิตศานต์, ประเภทหญิงคู่ จงกลพรรณ กิติธรากุล/รวินดา ประจงใจ, ประเภทชายคู่ สุภัค จอมเกาะ/กิตตินุพงษ์ เกตุเรน, ประเภทคู่ผสม เดชาพล พัววรานุเคราะห์/ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย

กอล์ฟ 4 ที่นั่ง ได้แก่ ประเภทบุคคลชาย “โปรอาร์ม” กิรเดช อภิบาลรัตน์, “โปรเพชร” พชร คงวัดใหม่, ประเภทบุคคลหญิง “โปรจีน” อาฒยา ฐิติกุล, “โปรแพตตี้” ปภังกร ธวัชธนกิจ

ว่ายน้ำ 2 ที่นั่ง ได้แก่ ฟรีสไตล์ 50 เมตรหญิง เจนจิรา ศรีสะอาด, ฟรีสไตล์ 100 เมตรชาย ดุลยวัต แก้วศรียงค์, เอ็กซ์ตรีม 1 ที่นั่ง ได้แก่ ประเภทสเกตบอร์ด สตรีท หญิง วารีรยา สุขเกษม, ยูโด 1 ที่นั่ง ได้แก่ มาซายูกิ เทราดะ รุ่นฟลายเวต 73 กก.ชาย, กรีฑา 1 ที่นั่ง ได้แก่ ภูริพล บุญสอน วิ่ง 100 ม.ชาย