เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. น.ส.พร (สงวนชื่อ-สกุล) อายุ 33 ปี  ชาวอำเภอเมืองปราจีนบุรี  ได้ร้องเรียนผ่านสื่อมวลชนว่า ลูกสาววัย 10 ขวบ ซึ่งเรียนอยู่ชั้น ป.5 ถูกลุงใช้มีดคัตเตอร์ทำร้ายร่างกาย  ก่อนทำการข่มขืนลูกสาวที่บ้านพักของตนเอง  และยังข่มขู่ว่าหากนำเรื่องนี้ไปบอกใครก็จะฆ่าทิ้งทั้งบ้าน  ทำให้ลูกสาวไม่กล้าที่จะบอกแม่และยาย

น.ส.พร กล่าวว่า ลูกสาวเล่าให้ฟังว่า เหตุเกิดในช่วงค่ำของ วันที่ 22 มิ.ย. 67 ในขณะที่น้องได้นอนเล่นอยู่ที่เปลหน้าบ้านของตัวเอง ได้มีนายพรสถิตย์ ซึ่งเป็นลุงวัย 41 ปี ได้พยายามเข้ามาล่วงเกิน ลูกสาวพยายามขัดขืนแต่ถูกทำร้ายร่างกาย จนนายพรสถิตย์ ได้กระทำการข่มขืน  ขณะนั้นยายทำธุระที่หลังบ้านเสร็จ  ได้เดินเข้ามาในบ้านเห็นนายพรสถิตย์   กำลังข่มขืนหลาน เมื่อนายพรสถิตเห็นดังนั้น จึงได้วิ่งหนีเข้าป่าไป ตนและยายจึงได้ถามนายพรสถิตย์ว่า  มาข่มขืนหลานทำไม  แต่นายพรสถิตย์   ได้ปฏิเสธว่าไม่ได้ข่มขืน ทางยายและแม่จึงได้เค้นถาม ก่อนที่จะแกล้งใช้ไม้เรียวจะตี  ด.ญ.เอ  อายุ 10 ปี  จึงยอมบอกว่าถูกลุงข่มขืนจริง  แต่ที่ไม่กล้าพูดเพราะถูกขู่จะฆ่าทิ้งทั้งครอบครัว  ทำให้นายพรสถิตย์ ยอมรับว่าทำจริงเพราะรัก  ทางยายและแม่เด็กจึงบอกว่าจะไปแจ้งความกับตำรวจ  ทำให้นายพรสถิตย์วิ่งหลบหนีไป         

จากนั้นได้พาลูกสาววัย 10 ขวบ  เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนเรียบร้อยแล้ว  ก่อนที่พนักงานสอบสวน จะส่งตัวไปตรวจร่างกาย  ที่โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร  ซึ่งการตรวจสอบพบว่าเด็กหญิงเอ   มีร่องรอยการถูกข่มขืนกระทำชำเราทั้งรอยเก่าและรอยใหม่  หมอจึงให้ยามาทานต้านเชื้อ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ตั้ง  ข้อหา “พรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี  ไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง ฯลฯ

ส่วนสาเหตุที่ต้องร้องสื่อมวลชน  เนื่องจากตนเองและลูกกลัวความไม่ปลอดภัยเพราะถูกขู่จะฆ่า  โดยเฉพาะตนเองต้องขับรถพาลูกสาวทั้ง 2 คน  ไปส่งและรับที่โรงเรียนทุกวัน  ประกอบกับตัว นายพรสถิตย์   เคยติดคุกมาแล้ว  และแถวบ้านเป็นป่า กลัวว่าเค้าจะซ่อนตัวในป่า แล้วจะเข้ามาทำร้ายถึงชีวิต  ซึ่งเมื่อคืนที่ผ่านมามีญาติเห็นนายพรสถิต เดินอยู่แถวบ้าน จึงต้องการให้สื่อเสนอข่าวเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งจับตัวมาดำเนินคดีโดยเร็ว