เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. ขณะที่ ร.ต.อ.ถิระโยธิน ทรัพย์สินธ์ รอง สวป.สภ.เมืองอุดรธานี นำกำลังออกตรวจในพื้นที่รับผิดชอบ ได้รับแจ้งเหตุอนาจาร ภายในร้านจำหน่ายรถจักรยานยนต์ ตั้งอยู่ถนนโภคาณุสรณ์ เขตเทศบาลนครอุดรธานี จึงนำกำลังสายตรวจ 191 รุดไปตรวจสอบพบ น.ส.ฝน อายุ 28 ปี ชาวอุดรธานี พนักงานร้านจำหน่ายรถจักรยานยนต์ พาไปโกดังหลังร้าน พร้อมเล่าว่า เวลาประมาณ 10.00 น. วันนี้ ได้มีบริษัทขนส่งสินค้าใน จ.อุดรธานี นำสินค้าใส่รถบรรทุกหกล้อตู้ทึบ และรถบรรทุกสิบล้อมาส่งที่ร้าน โดยมีคนงานผู้ชาย 2 คนแบกลังสินค้าลงมาส่งในโกดังหลังร้าน โดยมีตนและเพื่อนพนักงานหญิง 2 คน ทำหน้าที่เช็กสินค้าในโกดัง ตนนั่งอยู่ด้านใน ส่วนเพื่อนนั่งอยู่ด้านนอก
ขณะที่กำลังนั่งเช็กกล่องสินค้า ได้มีคนงานชายชื่อตั้ม เดินอ้อมมากอดตนทางด้านหลัง พร้อมกับใช้มือขยำหน้าอกตน ซึ่งตนร้องด้วยความตกใจ ทำให้นายตั้ม เดินออกมา ตนได้เดินตามมาต่อว่านายตั้ม ว่าทำแบบนี้ไม่ได้ ไม่ยินยอมจะแจ้งตำรวจ นายตั้ม ได้ยกมือไหว้พร้อมกับพูด “ผมขอโทษครับ” แต่ตนก็ไม่ยินยอม บอกให้เพื่อนนายตั้มเรียกภรรยานายตั้ม ซึ่งเป็นผู้จัดการมาพูดกับตน ซึ่งภรรยานายตั้ม ขอจ่ายค่าเสียหาย 500 บาท ตนไม่รับจะดำเนินคดี ภรรยานายตั้มเลยขึ้นค่าเสียหายให้ 1,000 บาท บอกตนให้มันจบๆ กัน แล้วก็พานายตั้ม ออกไป
“ไม่ยินยอมจึงแจ้งตำรวจ คนรู้จักกันก็ไม่ทำแบบนี้ ยิ่งไม่รู้จักกันยิ่งไม่น่าทำแบบนี้ ผู้ก่อเหตุปรี่ตรงเข้ามาแล้วอ้อมมากอดด้านหลัง พร้อมกับจับหน้าอก ด้วยความตกใจจึงร้อง ผู้ก่อเหตุก็รีบวิ่งออกมา ตนก็ตามไปต่อว่า จะเอาเรื่องถึงที่สุด แม้จะขอโทษและจ่ายเงิน 1,000 บาทก็ตาม ยังมาบอกว่าหยอกเล่น คนไม่รู้จักกันใครจะมาหยอกกันแบบนี้” น.ส.ฝน กล่าว
ทั้งนี้ จากการตรวจภาพจากกล้องวงจรปิดในโกดัง พบพนักงานหญิงสาวเสื้อแดง นั่งตรวจเช็กสินค้าอยู่ในโกดัง ส่วน น.ส.ฝน ผู้เสียหายนั่งอยู่ในมุมที่กล้องส่องไม่ถึง โดยมีคนงานแบกลังสินค้าเข้าไปส่งเป็นชาย 2 คน รวมทั้งนายตั้มผู้ก่อเหตุ ต่อมาได้ยินเสียง น.ส.ฝน ส่งเสียงร้อง นายตั้มได้วิ่งออกมา พร้อมกับยกมือไหว้ขอโทษ ซึ่ง น.ส.ฝน บอกว่าไม่ยอมจะเอาเรื่องจนถึงที่สุด
นายไกรศร อายุ 23 ปี พนักงานส่งของ เพื่อนผู้ก่อเหตุ เล่าว่า นายตั้ม เป็นชาวบุรีรัมย์ มาทำงานที่บริษัทได้ 3 เดือน มีภรรยาเป็นผู้จัดการรถ นั่งรถมาส่งสินค้าด้วยกัน ตอนนายตั้มก่อเหตุ ตนก็เห็น ไม่คิดว่านายตั้มจะกล้าทำ คิดว่านายตั้มคงจะเมา ซึ่งหลังก่อเหตุนายตั้มได้นั่งรถบรรทุก 6 ล้อไปส่งของให้ลูกค้าต่อ และตนได้โทรศัพท์เรียกให้นายตั้มมาที่เกิดเหตุ เพื่อพบตำรวจแล้ว สักพักนายตั้มได้ย้อนกลับมาที่เกิดเหตุ ตำรวจจึงควบคุมตัวไปโรงพัก ทำการสอบสวน โดยนายตั้ม ยอมรับว่า เมาเหล้าเล็กน้อย ไม่ได้ตั้งใจ ก็แค่หยอกเล่นตามประสาพี่น้อง แค่เข้าไปโอบผู้เสียหายทางด้านหลัง แต่ไม่ได้จับหน้าอก ก็แค่หยอกเล่นตามประสาพี่น้อง ถ้าตนผิดก็ขอยอมรับผิด และขอโทษ ถ้าผู้เสียหายยืนยันจะดำเนินคดี ตนก็ขอเงินที่จ่ายไป 1,000 บาทคืน
อย่างไรก็ตาม ตำรวจได้พาตัวไปตรวจปัสสาวะเพื่อหาสารเสพติด ปรากฏว่าปัสสาวะเป็นสีม่วง ซึ่งนายตั้มได้สารภาพว่าเมื่อคืนนี้เสพยาบ้ามา 1 เม็ด ตำรวจจึงแจ้งข้อหา “กระทำอนาจาร เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย” ควบคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
