รศ.นพ.วีรศักดิ์ จรัสชัยศรี อาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) ได้พูดถึงเรื่องนี้ ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว หมอหมู วีระศักดิ์ ซึ่งเปิดผลการศึกษาพบว่า การดื่มกาแฟ (กาเฟอีน) ทุกวัน ช่วยลดความเสี่ยงโรคนิ่วในไตหรือไม่?

โดยคุณหมอหมู ระบุข้อความว่า นิ่วในไตส่วนใหญ่มักประกอบด้วยแคลเซียมออกซาเลต และแคลเซียมฟอสเฟตเป็นสิ่งที่ตกผลึก ซึ่งเกิดขึ้นในไตเมื่อปัสสาวะของเรามีแร่ธาตุและสารเคมีอื่นๆ เข้มข้นมากเกินไป

จากผลการศึกษาในปี 2014 ที่ตีพิมพ์ใน The American Journal of Clinical Nutrition ระบุว่า การดื่มกาแฟที่มีกาเฟอีน ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดนิ่วในไต 26-31% ซึ่งผลลัพธ์ไม่แตกต่างจากการดื่มกาแฟที่ไม่มีกาเฟอีน (มีกาเฟอีนน้อย)

นอกจากนี้ งานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Advances in Nutrition ในปี 2018 ระบุว่า การดื่มกาแฟช่วยเพิ่มปริมาณปัสสาวะ และช่วยป้องกันการเกิดนิ่วในไตได้ แต่อย่างไรก็ตาม กาเฟอีน ที่อยู่ในกาแฟอาจมีแนวโน้มที่จะทำให้เกิดนิ่วในไต ซึ่งงานวิจัยที่ศึกษาในปี 2022 ที่ตีพิมพ์ใน Frontiers in Nutrition ได้วิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างการบริโภคกาเฟอีน กับความเสี่ยงต่อการเกิดนิ่วในไตในผู้เข้าร่วมกว่า 30,000 ราย ซึ่งพบว่า การบริโภคกาเฟอีนช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดนิ่วในไต โดยสรุป แล้วการดื่มกาแฟทุกวัน ช่วยลดความเสี่ยงโรคนิ่วในไต

หลายคนคงสงสัยว่าดื่มกาแฟวันละเท่าไหร่จึงจะปลอดภัย?
โดยทั่วไปแนะนำให้ดื่มกาแฟไม่เกิน 300 มิลลิกรัมต่อวัน หรือประมาณ 3 แก้ว ปริมาณกาเฟอีนในกาแฟแต่ละประเภทมี ดังนี้
– กาแฟดำ 1 ช้อนชา มีคาเฟอีนประมาณ 80 มิลลิกรัม
– อเมริกาโน่ 1 แก้ว (227 มล.) มีกาเฟอีนประมาณ 150 มิลลิกรัม
– ลาเต้ 1 แก้ว (227 มล.) มีกาเฟอีนประมาณ 75 มิลลิกรัม
– มอคค่า 1 แก้ว (227 มล.) มีกาเฟอีนประมาณ 150 มิลลิกรัม
– กาแฟสำเร็จรูป 1 ซอง มีกาเฟอีนประมาณ 30-60 มิลลิกรัม

ขอบคุณข้อมูล : หมอหมู วีระศักดิ์