ทุกคนปฏิเสธไม่ได้เลยว่า เกม ELDEN RING จากค่าย FromSoftware โดยคุณ ฮิเดทากะ มิยาซากิ (Hidetaka Miyazaki) กลายเป็นหนึ่งในเกมที่ได้รับการกล่าวถึงมากที่สุด ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา โดยตัวเกมมีจุดเด่นที่สำคัญก็คือ “ความยาก” ในระดับสุดท้าทาย จนทำให้เหล่า “ผู้มัวหมอง” (ศัพท์ที่ใช้เรียกผู้เล่นเกมนี้) หลายคน ต่างต้องพบกับประสบการณ์เจ็บตัวแบบโชกโชนมาหลายคนแล้ว!

แล้วเมื่อไม่นานนี้ พวกเขาก็เพิ่งจะปล่อย DLC ใหม่ในชื่อว่า Shadow of the Erdtree ไป แต่ตัวคอนเทนต์ใหม่นี้กลับได้รับคำวิจารณ์จากผู้เล่น ทั้งในแง่บวก และแง่ลบ แบบปะปนกันได้ โดยคำวิจารณ์ที่มาในเชิงแง่ลบส่วนใหญ่ ต่างบอกว่าตัวเกม และคอนเทนต์เสริมมีความ “ยากเกินไป”

ล่าสุดนี้ ทาง มิยาซากิ ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อ The Guardian เกี่ยวกับทิศทางของเกมไว้อย่างน่าสนใจ ว่า “ถ้าพวกเราอยากให้คนทั้งโลกเล่นเกมนี้ พวกเราก็คงจะปรับระดับความยากให้ลงแบบสุด ๆ แต่นั่นไม่ใช่หนทางของพวกเราเลย”

“แล้วถ้าเราเลือกจะปรับจริง ๆ ผมก็ไม่คิดว่าตัวเองจะมาอยู่ในจุดนี้ได้เลย เพราะว่าหนทางการก้าวไปสู่ความสำเร็จ ที่ผู้เล่นจะต้องเผชิญ มันคือส่วนหนึ่งของประสบการณ์ที่เราอยากจะส่งให้กับผู้เล่น การปรับความยากให้ลดลง นอกจากจะทำให้ความสนุกในส่วนนี้หายไป ในมุมมองของผมเอง มันก็เหมือนเป็นการทำลายเกมไปด้วย”

ด้วยแนวคิดนี้ของ มิยาซากิ ก็ทำให้เกมหลายเกมของค่าย FromSoftware เริ่มเป็นที่รู้จักในด้าน “ความยากที่ชวนท้าทายผู้เล่น” แต่ภายในเกมเหล่านั้น ก็มีการวาง “ตัวช่วย” ไว้ เพื่อไม่ให้ความท้าทายเหล่านั้นยากเกินไป โดยผู้เล่นส่วนใหญ่ที่จะฝ่าฟันอุปสรรคภายในเกมของค่ายนี้ได้ ต่างต้องใช้ความรู้ และเก็บประสบการณ์ภายในเกมให้มาก เพื่อให้สามารถผ่านด่านไปได้!

ส่วนใน ELDEN RING ผู้เล่นยังสามารถสร้างตัวละครเพิ่ม เพื่อปรับแผนการเล่นในแต่ละช่วง หรือจะเชิญผู้เล่นคนอื่นมา “ช่วย” ระหว่างเส้นทางก็สามารถทำได้เช่นกัน

ในขณะที่ DLC ใหม่ของเกมอย่าง Shadow of the Erdtree เอง ก็ได้รับการขนานนามว่าเป็นคอนเทนต์เสริมที่ให้ความรู้สึกเหมือนกับเล่น “เกมภาคต่อ” ของ ELDEN RING อยู่จริง ๆ แต่รูปแบบความยากของภาคเสริมนี้ ก็ไม่ได้ทิ้งดีเอ็นเอของตัวเกมหลักไปเลย

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก: The Guardian, FromSoftware