เมื่อวันที่ 8 ต.ค.64 นายสัญลักข์ ปัญวัฒนลิขิต กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) และ นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลง (MOU) ว่าด้วยการประสานความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างหน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงคมนาคม ผ่านการประชุมออนไลน์ (zoom Cloud Meetings)
นายสัญลักข์ เปิดเผยว่า บขส. ได้เห็นถึงความสำคัญในการนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร มาใช้เพื่อยกระดับ และส่งเสริมเรื่องความปลอดภัยให้กับรถโดยสารสาธารณะ ปัจจุบัน บขส. มีรถโดยสารที่ติดตั้งระบบ GPS จำนวน 396 คัน ซึ่ง บขส. สามารถตรวจสอบข้อมูลจากระบบ GPS ได้แบบเรียลไทม์ ผ่านห้องควบคุมการเดินรถโดยสารสาธารณะด้วยระบบ GPS ของ บขส. ขณะที่ในส่วนของรถร่วมบริการที่อยู่ในกำกับดูแลของ บขส. ทั้งรถโดยสารขนาดใหญ่ และรถตู้โดยสาร กว่า 9,000 คัน สามารถติดตามข้อมูลระบบ GPS ผ่านศูนย์บริหารจัดการเดินรถระบบ GPS ของ ขบ. เท่านั้น ดังนั้นเพื่อให้การควบคุม กำกับและติดตามพฤติกรรมการขับขี่ และการใช้รถใช้ถนน เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยลดอุบัติเหตุ เพิ่มความปลอดภัยต่อผู้โดยสาร
อีกทั้งเกิดเป็นความร่วมมือในการทำงานแบบบูรณาการร่วมกันระหว่างหน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงคมนาคม ตามนโยบายนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม บขส. จึงได้ประสานความร่วมมือ แลกเปลี่ยนข้อมูลระบบ GPS กับ ขบ. โดย ขบ. จะช่วยสนับสนุนให้ บขส. สามารถดำเนินภารกิจ เพื่อประโยชน์สาธารณะ และเป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย ภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 และพระราชบัญญัติการบริหารงานและการให้บริการภาครัฐผ่านระบบดิจิทัล พ.ศ.2562
ด้านนายจิรุตม์ กล่าวว่า ขบ. รู้สึกเป็นเกียรติและยินดีที่ ขบ. ให้ความสำคัญในเรื่องประสานความร่วมมือและแลกเปลี่ยนข้อมูลระบบ GPS ที่ ขบ. ได้ใช้ในการกำกับควบคุมการเดินรถอยู่ ทั้งนี้ได้ร่วมมือกับ บขส. เพื่อส่งเสริมความร่วมมือผ่านระบบสารสนเทศและการสื่อสาร ถือเป็นมิติที่สำคัญในการส่งสัญญาณความปลอดภัย การกำกับดูแลของรถโดยสารสาธารณะออกสู่ท้องถนน ด้วยความมุ่งมุ่นและตั้งใจที่แก้ปัญหาการเกิดอุบัติเหตุทางถนนของประเทศ โครงการมั่นใจทั่วไทย รถใช้ GPS ของ ขบ. เป็นโครงการที่มีความสำคัญตั้งเป้าหมายไว้ว่า รถสาธารณะและรถบรรทุกขนาดใหญ่ จะควบคุม กำกับดูแลการใช้รถเหล่านี้บนท้องถนน โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเร็วและชั่วโมงการขับรถแบบเรียลไทม์
ซึ่งการจัดการข้อมูลผ่านศูนย์บริหารจัดการเดินรถระบบ GPS ของ ขบ. ไม่ได้ดำเนินการเฉพาะที่ส่วนกลางอย่างเดียว ยังขยายผลไปยังสำนักงานขนส่งในภูมิภาคทั้ง 76 จังหวัด ได้มีศูนย์การควบคุมกำกับดูแลการเดินรถ ทั้งรถโดยสาร และ รถบรรทุก เพื่อมอนิเตอร์เรื่องเหล่านี้ด้วย ทั้งนี้ ขบ. ยินดีที่ บขส. จะเป็นอีกแรงช่วยในการกำกับดูแลรถร่วม บขส. ที่มี 9,000 กว่าคัน จะช่วยบูรณาการในเชิงรุกที่ช่วยกันดูแลรถสาธารณะ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยและประโยชน์ต่อสาธารณะสูงสุดต่อไป
สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้ เป็นไปตามแนวทางนโยบายดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมของรัฐบาล เน้นย้ำบูรณาการร่วมกัน ส่งเสริม และพัฒนาการใช้ดิจิทัลมากำกับดูแลรถสาธารณะ เพื่อป้องกัน ระงับการเสียชีวิตของผู้ใช้บริการรถโดยสารประจำทางของ บขส. และ รถร่วม บขส. ต่อไป นอกจากนี้ บขส. ต้องกำกับดูแลรถร่วม บขส. ให้เป็นไปตามสัญญาที่กำหนดด้วย เพื่อความปลอดภัยในการเดินทางในระยะยาวและยั่งยืน