เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.67  พญ.จินตนา มโนรมย์ภัทรสาร แพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู  ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีความพยายามนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด  ว่า ส่วนตัวให้กัญชาเป็นยา ไม่ใช่ยาเสพติด แต่เป็นสมุนไพรรักษาโรค คนไทย ใช้กัญชา เป็นอาหาร เป็นยาตามบ้าน ใช้รักษาตัวเอง  สามารถปลูกเองได้ แต่ที่มีปัญหาคือ บางทีมันเล็ดลอดไปถึงเด็ก เราแค่ต้องไปควบคุมและต้องหาวิธีควบคุมอย่างไรให้ปลอดภัย ซึ่งถ้าเอากลับไปเป็นยาเสพติด มันก็ต้องคุมกันแบบไม่ให้ลืมตาอ้าปาก ไม่ใช่คุมแค่เด็ก แต่คุมทุกคน คนป่วยก็ได้รับผลกระทบด้วย หรือให้แต่หมอใช้ ชาวบ้าน ใช้ไม่ได้ ทั้งที่กัญชาเป็นสมุนไพร ที่ชาวบ้านใช้มานานแล้วแต่เราจะไปริบสิทธิ์ตรงนั้น 

พญ.จินตนา กล่าวว่า ยากัญชา แก้ปวด คลายกล้ามเนื้อ ทำให้หลับ ทำให้อยากอาหาร ทำให้ภูมิต้านทานสมดุล และมีฤทธิ์ในการช่วยรักษามะเร็ง มีผลการศึกษาชัดเจน โรคเอดส์ ก็รักษาได้ แต่เราไม่ใช้ยากัญชาตัวเดียว แต่ต้องใช้ร่วมกับยาสมุนไพร ตัวอื่นด้วย รักษา อัมพฤต อัมพาต พาร์กินสัน โรคผิวหนัง พวกนี้ มีสูตรทั้งหมด เรามียาเยอะมาก ที่ใช้กัญชาเป็นส่วนประกอบ และประทศไทย เป็นประเทศเดียว ที่มีตำรับยาแบบนี้ เราไม่ได้แค่สกัดนำยามาใช้ เพราะเราใช้มานาน ต่างชาติ รู้แค่นอนหลับ คลายเครียด แต่คนไทยทำให้กัญชา มีประสิทธิภาพมากกว่านั้น ถ้าเอากลับเป็นยาเสพติดมันไม่สะดวกในการใช้แล้ว จะขนย้าย จะปรุงยา วุ่นวายมาก มันใช้ได้แต่ยุ่งยาก สุดท้ายจะเลิกใช้กัน  ที่สำคัญมันไปจำกัดสิทธิ์ประชาชนที่ใช้มานานแล้ว วันนี้เขาใช้ในอาหาร คนป่วย เขาทานข้าวโรยกัญชา แกงไก่ ทำให้เจริญอาหาร แล้วเขากินอร่อย มันก็ดีต่อสุขภาพ มะเร็ง มันมักจะกินไม่ได้ นอนไม่หลับ เจ็บ คลื่นไส้ อาเจียน กัญชา ทำให้กินได้ นอนหลับ หายปวด มันออกฤทธิ์หลายอย่าง ก้อนมะเร็ง เขาใช้ตำรับผสมรักษา  แม้แต่ยารักษาอาการติดฝิ่น หรือยาเสพติด ก็มีตำรับยาไปรักษา มีกัญชา เป็นหนึ่งในนั้น หมอเองรักษาคนไข้ ทั้งจากโรค และอาการติดยาเสพติด  หลายคนก็หาย

“อย่างที่บอกมาตลอดว่า ชาวบ้าน เขาใช้กัญชาในชีวิตจริง เขามีประสบการณ์ตรง เขาใช้เป็น และมันเป็นวิถีของเขา  โบราณมีบันทึกการใช้อย่างละเอียด นี่คือทางเลือกของประชาชน  ดังนั้น ก็ควรคุมให้เหมาะสม ระวังไม่ให้เข้าถึงเด็ก ระวังไม่ให้ ใช้ในสถานศึกษา อย่าไปขายใกล้ สถานที่เรียนหนังสือ จำกัดเวลาขาย จำกัดสถานที่ขาย คนขายต้องมีใบอนุญาต  ถ้าเห็นเด็กใช้ ผู้ปกครอง ต้องร่วมรับผิดชอบด้วย ถ้ารู้ว่าเด็กซื้อมาจากไหน ร้านต้องรับผิดชอบด้วย แล้วมีกฎหมาย ก็ต้องบังคับใช้จริงจัง อย่าละเลย แบบนั้น มีกฎหมายไป ก็ไร้ประโยชน์  แต่ถ้าเอากลับเป็นยาเพติด มองว่าเป็นเรื่องเสียโอกาสของคนไทย ในการทำลายทางเลือกด้านการรักษาโรค” พญ.จินตนา กล่าว

พญ.จินตนา  กล่าวว่า สิ่งที่ต้องการที่แท้จริง คือ กฎหมาย และการบังคับใช้อย่างจริงจัง นอกจากนั้นมีเรื่องต้องฝากไว้ให้คิด สังเกตดูเวลาไปจับยาเพติดติด พวกที่ใช้เฮโรอีน ยาบ้า พอจับได้ ไปบอกว่าใช้กัญชา แล้วก็ไปตีข่าวกันไปแบบนั้น แต่ความจริงมันไม่ใช่เลย ซึ่งสิ่งที่ตามมาคือกัญชา ถูกด้อยค่า ถูกทำลาย ถูกทำให้กลายเป็นผู้ร้ายไปแล้ว.