มาแล้วค่ามาแล้ว “นูน่าเมี้ยน” มาแล้วค่า แฟนๆ ที่น่ารักทุกคน แน่นอนว่ามาเจอกันแบบนี้ นูน่าก็ขนเอาข่าวสารความบันเทิง และประเด็นร้อนในรอบสัปดาห์ของวงการบันเทิง K-Pop นักแสดง ไอดอลเกาหลีมาอัปเดตแบบพิเศษสุดเอ็กซ์คลูซีฟให้แฟนๆ ได้อ่านกัน กับคอลัมน์เลิศๆ อย่าง “SeoulStation” ว่าแต่สัปดาห์นี้จะมีอะไรฮอต อะไรที่ปังๆ เป็นกระแสบ้างนะ ถ้าไม่อยากเสียเวลาก็ตามมาอ่านกันได้เลยค่า

@ ประเดิมข่าวแรกที่เรียกได้ว่าทำเอาแฟนๆ ต่างพากันให้ความสนใจ และตั้งตารอหนักมาก หลังจากสื่อเกาหลีได้ออกมาเปิดเผยว่า “โรเซ่ BLACKPINK” กำลังพิจารณาเซ็นสัญญากับค่ายใหม่อย่าง “THE BLACK LABEL” ซึ่งต่อมาทาง THE BLACK LABEL ก็ได้ออกมายืนยันว่า โรเซ่ กำลังพิจารณาเซ็นสัญญาจริง พร้อมกับออกมาประกาศอย่างเป็นทางการว่าได้เซ็นสัญญากับโรเซ่แล้ว โดยมีเนื้อหาในประกาศว่า “สวัสดีนี่คือ THE BLACK LABEL เราได้ลงนามในสัญญาการจัดการกับศิลปินโรเซ่แล้ว โปรดิวเซอร์เท็ดดี้และศิลปินโรเซ่ ซึ่งทำงานร่วมกันในฐานะโปรดิวเซอร์และศิลปินที่ใกล้ชิดกันมาเป็นเวลานาน เพิ่งเซ็นสัญญาการจัดการกับ The Black Label จากความไว้วางใจซึ่งกันและกันอย่างลึกซึ้ง

ปัจจุบันโรเซ่กำลังเตรียมพบกับแฟนๆ ทั่วโลกด้วยเพลงใหม่ และวางแผนที่จะดำเนินกิจกรรมทางดนตรีทั่วโลกกับค่ายเพลงระดับโลกในอนาคต โปรดตั้งตารอการทำงานร่วมกันที่ดีที่สุดระหว่างโรเซ่ ผู้ครอบครองสีสันทางดนตรีที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และ The Black Label ซึ่งแสวงหาเสรีภาพในการทำกิจกรรมของศิลปิน เราสัญญาว่าเราจะไม่ละทิ้งการสนับสนุนใดๆ ในอนาคตในความพยายามต่างๆ ของเธอ เพื่อให้โรเซ่สามารถมีบทบาทในสาขาที่หลากหลายมากขึ้น ขอบคุณ”

นอกจากนี้หลังจากข่าวดังกล่าวถูกรายงานออกไป โรเซ่ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านอินสตาแกรมส่วนตัวระบุข้อความว่า “สวัสดีที่รักของฉัน ขออภัยที่ทำให้รอนาน ฉันรู้ว่าพวกคุณบางคนอยากได้ยินจากฉันมาสักระยะหนึ่งแล้ว โดยส่วนตัวแล้วฉันไม่ต้องการพูดหรือประกาศอะไรก่อนที่ฉันจะจัดการทุกอย่างเพื่อให้เพลงของฉันออกมา พูดให้ง่ายกว่านี้ ไม่ว่าฉันจะบอกคุณอย่างไร ฉันก็อยากจะเตรียมเตรียมพร้อม ที่จะสนับสนุนมัน ด้วยสิ่งดีๆ ดังที่คุณทราบ ฉันมาจากสถานที่ที่ฉันได้ทำอะไรหลายอย่างเพื่อฉันมากกว่าการทำอะไรด้วยตัวเอง

ดังนั้น โดยธรรมชาติแล้ว ฉันต้องใช้เวลาในการเรียนรู้ เข้าใจ สงสัย และไว้วางใจตัวเองและคนอื่นๆ นับครั้งไม่ถ้วนเพื่อที่จะเป็นคนที่มีความรับผิดชอบมากที่สุดที่ฉันสามารถเป็นตัวของตัวเองได้ (จริงๆ แล้วฉันหวังว่าฉันจะมีเวลาเพิ่มอีก 4 ปีในวัย 20 ของฉันเพื่อที่ฉันจะสามารถเรียนรู้ได้) ทั้งหมดนั้น! อย่างที่พวกคุณทุกคนรู้จักฉัน ฉันเกลียดการพูดว่าฉันมีอะไรบางอย่างก่อนที่จะลงมือทำจริงๆ และสำหรับฉัน ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการมอบสิ่งที่ฉันรักอย่างแท้จริงให้กับคุณ ซึ่งก็คือดนตรี เริ่มตั้งแต่ปลายปีที่แล้วตลอดทั้งปีนี้ ฉันเข้าออกสตูดิโอเกือบทุกวันเพื่อทำงานเพลงใหม่ๆ นี่เป็นปีแห่งการวาดแผนที่และนำทางไปยังจุดที่ฉันอยากจะไป และสิ่งที่ฉันอยากทำในอนาคต เป็นเวลาหลายเดือนแล้วที่ฉันได้เรียนรู้ที่จะเป็นคนอิสระสำหรับตัวเอง

ท้ายที่สุดแล้ว ฉันยินดีที่จะประกาศว่าฉันได้ทำงานอย่างเป็นทางการกับ @theblacklabel ในฐานะผู้จัดการเพลง ซึ่งจะคอยจัดการหลักสูตรและช่วยให้ฉันก้าวไปสู่การบรรลุความฝัน ยิ่งไปกว่านั้น ฉันยังมีประกาศที่น่าตื่นเต้นอื่นๆ อีกในอนาคตอันใกล้นี้ แต่ที่สำคัญที่สุด ฉันอยากให้ทุกคนตื่นเต้นกับเพลงของฉันมากที่สุด! ค่ายเพลง ฝ่ายบริหาร ทุกสิ่งทุกอย่าง (ซึ่งฉันรู้ว่าคุณคงตื่นเต้นมาก!!!!) พวกเขาจะคอยสนับสนุนดนตรีและความฝันของฉัน และฉันรู้สึกตื่นเต้นมากสำหรับเรื่องนั้น ดังนั้นได้โปรดตื่นเต้นกับเพลงของฉันด้วย! ฉันรู้ว่าคุณมีคำถามมากมาย แต่นี่เป็นเพียงชิ้นส่วนปริศนาที่น่าตื่นเต้นชิ้นแรกสู่ภาพรวมที่ใหญ่กว่ามาก รักเธอ”

ทั้งนี้ สำหรับค่าย “The Black Label” ก่อตั้งขึ้นในปี 2016 โดยโปรดิวเซอร์ “Teddy” ซึ่งปัจจุบันนี้มีคนดังมากมายที่อยู่ภายใต้สังกัดเช่น จอนโซมี, แทยัง และ พัคโบกอม เป็นต้น ด้านเท็ดดี้มีความสัมพันธ์อันยาวนานกับโรเซ่ โดยได้โปรดิวซ์เพลงฮิตของ BLACKPINK หลายเพลง รวมถึง “Whistle” และ “Boombayah”

@ ตามกันที่ข่าวคอนเสิร์ต “WORLD PREMIERE: THE 1ST EVER LIVE 2024 TEMPEST CONCERT [T-OUR: TEMPEST Voyage]” ของหนุ่มๆ วง “TEMPEST” ซึ่งมีสมาชิกประกอบไปด้วย “ลูว์” (LEW), “ฮันบิน” (Hanbin), “ฮยองซอบ” (Hyeongseop), “ฮยอก” (Hyuk), “อึนชาน” (Eunchan), “แทแร” (Taerae) และ “ฮวารัง” (Hwarang) (อยู่ระหว่างพักกิจกรรมชั่วคราว) ที่ปิดฉากลงไปอย่างสวยงามแล้วเมื่อวันที่ 15 มิ.ย. ที่ผ่านมา ณ สนามกีฬาในร่มฟู้เถาะ นครโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม ซึ่งคอนเสิร์ตครั้งนี้เป็นการแสดงคอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรกในเวียดนามของพวกเขา โดยก่อนหน้านี้ TEMPEST ได้เข้างานเทศกาลดนตรี “Hozo Music Festival” ที่ประเทศเวียดนามเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว และได้รับการตอบรับอย่างร้อนแรง และอบอุ่น

สำหรับคอนเสิร์ตครั้งนี้ หนุ่มๆ TEMPEST ประเดิมเปิดเวทีการแสดงด้วยเพลงล่าสุดอย่าง “LIGHTHOUSE” ตามมาด้วยเพลงฮิตอย่าง “Dragon” และ “Vroom Vroom” ท่ามกลางแสงจากแท่งไฟที่ส่องสว่างปกคลุมไปทั่วทั้งฮอลล์ พร้อมโบกสะบัดคอยเชียร์หนุ่มๆ กันอยู่เต็มไปหมด และเมื่อเพลงช่วงแรกได้จบลงไปเหล่า “iE” (ชื่อแฟนคลับ TEMPEST) ต่างพากันส่งเสียงร้องดังกึกก้องไปทั่วสนามกีฬา ก่อนที่หนุ่มๆ จะเริ่มทักทายแฟนๆ อย่างเป็นกันเองด้วยเอนเนอร์จี้ที่เปี่ยมล้นไปด้วยความสุข พร้อมกล่าวว่า “เราได้เริ่มต้นการเดินทางของคอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรกของเราในเวียดนาม มาสร้างความทรงจำที่มีความสุขเช่นเดียวกับความหมายของคอนเสิร์ต “T-OUR” ซึ่งหมายความว่า TEMPEST และ iE มาเป็นหนึ่งเดียวกันและใช้เวลาร่วมกัน”

หลังจากนั้น TEMPEST ก็ได้แสดงความรู้สึกถึงการมาแสดงคอนเสิร์ตครั้งนี้ว่า “เมื่อฉันได้ยินว่ามีคอนเสิร์ตเดี่ยวในเวียดนาม ทุกคนก็ต่างดีใจ ทันทีที่เรามาถึงสนามบิน เรามีความสุขและซาบซึ้งมากที่หลายคนมาต้อนรับเราอย่างอบอุ่น เราได้เตรียมการมากมายสําหรับคอนเสิร์ตครั้งนี้ ดังนั้นคุณสามารถตั้งตารอได้” ก่อนที่พวกเขาจะทำการแสดงต่อบนเวทีด้วย “Young & Wild” และ “START UP” และตามด้วย “Dive” ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมในคอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรกของพวกเขาที่กรุงโซลเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว นอกจากนี้ TEMPEST  ยังได้เตรียมโชว์พิเศษมาเพื่อแฟนๆ ชาวเวียดนามด้วย นั่นคือการร้องเพลงคัฟเวอร์ “Chiếc Khăn Gió Ấm” ของ Khánh Phương สร้างความประทับ และเรียกเสียงกรี๊ดจากแฟนๆ ได้อย่างมากมาย

นอกจากนี้พวกเขายังสร้างเสียงหัวเราะให้กับแฟนๆ ผ่านมุมต่างๆ เช่น เกมที่ใช้ของเล่นเวียดนาม และชาเลนจ์การเต้น พร้อมกับบันทึกช่วงเวลาพิเศษด้วยการถ่ายภาพกับแฟนๆ ระหว่างอยู่บนเวที ก่อนที่จะตามมาด้วยการโชว์เพลง “B.O.K”, “There”, “Dangerous”, “Bad News” และอีกมากมาย สุดท้ายพวกเขาร้องเพลง “Loving Number” เป็นเพลงอังกอร์ พร้อมกับกล่าวว่า “นี่เป็นคอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรกของเราในเวียดนาม ดังนั้นเราจึงรู้สึกกดดันที่จะทำผลงานออกมาให้ได้ดี แต่เมื่อได้เห็นแฟนๆ ชอบมันทำให้เรารู้สึกเหงื่อและความพยายามที่ฉันหลั่งออกมาดูเหมือนจะไม่สูญเปล่า เรามีความสุขมาก สัญญาว่าจะพบกันอีกในครั้งต่อไป เราจะไม่มีวันลืมความรักที่แฟนๆ มอบให้ และจะตอบแทนพวกเขาด้วยดนตรี และการแสดงที่ดี”

สำหรับ “TEMPEST” เริ่มเวิลด์ทัวร์คอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรก “T-OUR” เมื่อปีที่แล้ว โดยเริ่มต้นที่กรุงโซล และนับตั้งแต่นั้นมาก็ได้สร้างความทรงจำอันน่าจดจำร่วมกับแฟนๆ ในญี่ปุ่น มาเก๊า และเวียดนาม

@ มาต่อที่ข่าววงน้องใหม่ระดับท็อปอย่าง “RIIZE” (ไรซ์) ที่ได้ปรับจังหวะเข้ากับกีตาร์เบสอย่างสมบูรณ์แบบในเพลงไตเติล “Boom Boom Bass” จากมินิอัลบั้มชุดแรก “RIIZING” ที่ปล่อยออกมาอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมา นับเป็นการเริ่มต้นที่ดีสำหรับความบูมของ RIIZE เพราะเพลงใหม่ Boom Boom Bass ได้ทะยานขึ้นสู่อันดับสูงบนชาร์ตเพลงดิจิทัลในประเทศเกาหลีใต้ เช่น อันดับ 16 บนชาร์ต TOP100 และอันดับ 4 บนชาร์ต HOT100 ของ Melon, อันดับ 3 บนชาร์ต real-time ของ Bugs, อันดับ 1 บนชาร์ต rising ของ VIBE ฯลฯ รวมถึงมิวสิกวิดีโอของเพลงนี้ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการค้นหากีตาร์เบสในตำนาน สามารถครองอันดับ 2 บน Trending for music ของ YouTube เช่นกัน

มินิอัลบั้มชุดแรก RIIZING ได้รวบรวม “Emotional Pop” หรือแนวเพลงอันเป็นเอกลักษณ์ของ RIIZE ที่แสดงอารมณ์ต่าง ๆ ของสมาชิกผ่านดนตรีในรูปแบบที่หลากหลายมากขึ้น ทั้งหมด 8 เพลง ได้แก่ เพลงไตเติล “Boom Boom Bass” แนวป๊อป แดนซ์ ที่มีจังหวะดิสโกฟังกี้และไลน์เบสที่ดึงดูดใจ เนื้อเพลงบอกเล่าเกี่ยวกับวัยเยาว์ที่ถ่ายทอดความตื่นเต้นต่อกันอย่างมีอิสระผ่านการเล่นกีตาร์เบส อีกทั้งเนื่องจากคอนเซปต์หลักของเพลง คือ กีตาร์เบส เพลงนี้จึงมีการเปลี่ยนแปลงที่แสดงให้เห็นถึงความสนิทสนมที่ค่อยๆ ลึกซึ้งขึ้นตามระดับสูงต่ำของเสียง เรียกได้ว่า ทุกคนจะได้พบกับ RIIZE ที่ใช้เครื่องดนตรีอีกครั้ง ต่อจากเพลงเดบิวต์ “Get A Guitar” และเพลงที่มีเสียงริฟฟ์แซกโซโฟนอย่าง “Talk Saxy”

นอกจากนี้ ในอัลบั้มยังมีเพลง “Siren” ที่ถูกปล่อยออกมาเป็นวิดีโอการแสดงตั้งแต่ก่อนเดบิวต์ โดยเป็นเพลงฮิปฮอปยุค 90 ที่มีซาวด์กลองสไตล์ Boom Bap และเบสริฟฟ์อันทรงพลัง เนื้อเพลงเปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่นที่จะทำให้ทุกคนมาสนใจ RIIZE ในอนาคต, เพลงสไตล์เฮาส์ “Impossible” มาพร้อมข้อความว่า “ถึงแม้ทุกคนจะคิดว่าเป็นไปไม่ได้ แต่เมื่อพวกเราก้าวไปสู่ความฝันเดียวกัน ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้อีกต่อไป”, เพลงแดนซ์ “9 Days” เนื้อเพลงใส่ความตั้งใจที่จะมุ่งหน้าสู่ความฝันต่อไปอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย แม้จะยุ่งมาก ราวกับว่า 1 สัปดาห์มี 9 วันก็ตาม, เพลงป๊อปอาร์แอนด์บี “Honestly” กับเรื่องราวการบอกลาความรักที่กำลังทำให้ตัวเองเจ็บปวด และจากนี้จะนำความรักของตัวเองมาใช้เพื่อตัวเองแทน

เพลงสำหรับแฟนคลับเพลงแรก “One Kiss” เพลงป๊อปจังหวะปานกลาง เนื้อเพลงแสดงถึงความรักที่ไม่เปลี่ยนแปลงด้วยการจูบเพียงครั้งเดียว รวมถึงเพลงที่ปล่อยออกมาก่อนหน้านี้และได้รับความรักท่วมท้นอย่าง “Talk Saxy” เพลงแดนซ์ที่มีการริฟฟ์แซกโซโฟนสุดติดหูตั้งแต่ช่วงต้นเพลง เนื้อเพลงเต็มไปด้วยความจริงใจและความมั่นใจตามสไตล์ RIIZE พูดถึงวิธีการแสดงความสนใจที่มีต่อคนไม่คุ้นเคย และเพลงป๊อป แดนซ์ “Love 119” เปรียบเทียบสถานการณ์ฉุกเฉินกับอารมณ์ของความรักครั้งแรกที่จู่ ๆ ก็เข้ามาหา

สำหรับกระแสตอบรับของอัลบั้มนี้ สามารถครองอันดับ 1 บนชาร์ต iTunes Top Albums ใน 9 ภูมิภาคทั่วโลก ได้แก่ ไทย, บราซิล, ฟินแลนด์, ญี่ปุ่น, อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์, อุซเบกิสถาน, เวียดนาม และไต้หวัน ไม่เพียงเท่านี้ ยังติดอันดับ 1 บนชาร์ต real-time album TOP100 ของ LINE MUSIC และอันดับ 1 บนชาร์ต real-time rising ของ AWA แพลตฟอร์มท้องถิ่นประเทศญี่ปุ่น, อันดับ 1 ประจำวันบนชาร์ตอัลบั้มหลักในประเทศเกาหลีใต้ ทั้ง Hanteo chart และ Kyobo Book Centre ฯลฯ

ทั้งนี้ RIIZE (ไรซ์) เตรียมมาสร้างความสนุกในงานแฟนคอนครั้งแรกนับตั้งแต่เดบิวต์ “2024 RIIZE FAN-CON ‘RIIZING DAY’ in BANGKOK” ในวันเสาร์ที่ 27 (เวลา 18.00 น.) และอาทิตย์ที่ 28 (เวลา 16.00 น.) กรกฎาคม 2567 ณ ธันเดอร์โดม เมืองทองธานี ซึ่งแฟนคลับชาวไทยได้แสดงพลังสนับสนุนอย่างถล่มทลายจนบัตรทั้ง 2 รอบการแสดง จำหน่ายหมดเกลี้ยงทุกที่นั่งทันทีภายในวันที่เปิดจำหน่าย!

@ ตามมาติดๆ กับข่าวของ “มงคลซีนีม่า” ที่เตรียมอุ่นเครื่องความมันทะลุจอไปกับภาพยนตร์แอ๊คชั่นทริลเลอร์บล็อกบัสเตอร์ “Escape หนีให้พ้นนรก” ด้วยการปล่อย “โปสเตอร์ชื่อไทย” และ “ตัวอย่างซับไทย” พร้อม “ภาพเซตแรก” ออกมาเผยเรื่องราวสุดเข้มข้น เมื่อ “อิมกยูนัม” (รับบทโดย “อีเจฮุน”) ทหารเกาหลีเหนือตัดสินใจหลบหนีจากชีวิตในค่ายทหารที่เปรียบเสมือนนรกบนดินเพื่อมุ่งหน้าสู่ชีวิตใหม่ในแดนเกาหลีใต้

ทว่าปฏิบัติการหนีครั้งนี้กลับไม่ง่ายดายเมื่อเขาต้องเผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่หน่วยความมั่นคงสุดโหดอย่าง “รีฮยอนซาง” (รับบทโดย “คูคโยฮวาน”) ท่ามกลางเส้นทางการหนีในเขตชายแดนที่ทุกย่างก้าวคือความตาย การไล่ล่าสุดระห่ำที่มีชีวิตเป็นเดิมพันจึงเริ่มต้นขึ้น!

งานนี้เตรียมตัวมันเต็มสูบกับการประกบคู่ทุ่มหมดตัวของสองนักแสดงนำสายคุณภาพ “อีเจฮุน” นักแสดงหนุ่มมากฝีมือหลังจากรับบทนักล่าขาโหดในซีรีส์ “Taxi Driver” (2021-2023) มาแล้วถึงสองภาค ครั้งนี้เขากลับมาพลิกบทบาทครั้งสำคัญเป็นผู้ถูกไล่ล่าจับตายจากการหนีทหารอย่างดุเดือดที่มีเป้าหมายเดียวคือต้องรอด!

ประชันฝีมือนักแสดงหนุ่มมาแรงมากความสามารถ “คูคโยฮวาน” ซึ่งสั่งสมประสบการณ์นักล่ามาแล้วจากซีรีส์ชื่อดังอย่าง “D.P.” (2021-2023) โดยในครั้งนี้เขาจะกลับมาไล่ล่าบนเส้นทางที่ทวีความเดือด โหด และมันกว่าเดิมหลายเท่า ด้วยเรื่องราว การแสดง และงานสร้างสุดเข้มข้นของปฏิบัติการหนีทหารสุดเดือดที่มีชีวิตเป็นเดิมพันส่งผลให้ “Escape หนีให้พ้นนรก” ได้รับกระแสการตอบรับจากทั่วโลกกว่า 163 ประเทศที่ซื้อไปฉาย การันตีความเป็นภาพยนตร์แอ๊คชั่นสุดระทึกที่โลกต้องจับตาแห่งปี 2024 คอหนังและแฟนชาวไทยนับถอยหลังเตรียมเดือดพร้อมกัน 18 กรกฎาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์

@ ปิดท้ายที่ข่าวของศิลปินชื่อดังระดับโลก “มาร์ค ต้วน” หรือ “มาร์ค GOT7” ที่มาสร้างความสุขให้กับแฟนๆ ในงาน ”The 1 Day 2024” กับประสบการณ์สุดพิเศษ “Meet & Greet กับ Mark Tuan” โดย The 1 ภายใต้กลุ่มเซ็นทรัล และบัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน จัดงานแถลงข่าวดังกล่าวขึ้น โดยบรรยากาศภายในงานมาร์ค ต้วนได้เดินพบปะแฟนๆ ตั้งแต่ชัั้น 1 จนมาถึงชั้น 8 เลยทีเดียว และเรียกได้ว่าตลอดสองข้างทางทั้ง 8 ชั้น มีเหล่าอากาเซ่มารอต้อนรับกันอย่างคับคั่ง และเนืองแน่น ชนิดที่ว่าห้างแทบแตกเลยด้วย

นอกจากนี้ มาร์ค ต้วน ยังสาดความฮอตไม่หยุด ทำเอาห้างเซ็นทรัลแทบลุกเป็นไฟ แถมยังขอบคุณแฟนๆ ที่เป็นกำลังใจ และซัพพอร์ตกันอย่างมากมายจนทำให้เกิดงานในวันนี้ด้วย

เฮ้อ..เผลอแป๊บๆ หมดเวลาของนูน่าแล้วสินะคะ แต่ยังมีอีกหลายเรื่องที่นูน่าอยากเล่าให้ทุกคนฟังเลย แต่ไม่เป็นไรเดี๋ยวนูน่าเก็บไว้สัปดาห์หน้าก็ได้ค่ะ แต่สำหรับใครที่มีเรื่องราวที่อยากให้นูน่าอัปเดตสามารถทักมาพูดคุยกับนูน่าได้ที่ทวิตเตอร์ (เอ็กซ์) @seoulstation_dn นะคะ หรือถ้าใครอดใจรอไม่ไหว อยากอัปเดตข่าวสารอย่างรวดเร็วทันใจ และเรียลไทม์ของวงการบันเทิงเกาหลี สามารถกดฟอลโลว์ติดตามนูน่ากันได้เลยนะคะ..


คอลัมน์ “SeoulStation”
โดย “นูน่าเมี้ยน”