เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 22 มิ.ย. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ “คุยกับเศรษฐา” ซึ่งวันนี้เป็นการออกอากาศครั้งแรก ทางสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ตั้งแต่เวลา 08.00-08.30 น. โดยนายกฯ กล่าวถึงการประชุม ครม. อย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ว่า ตรงนี้ไม่ใช่เป็นความลับอะไร ตนเองเชื่อว่านายกรัฐมนตรีหลาย ๆ ท่าน ก็ทำอยู่แล้ว เรื่องการมี ครม.สัญจร แต่รายละเอียดแตกต่างกันไปบ้าง แน่นอนการที่ ครม. ทั้งคณะลงไปจังหวัดไหน พื้นที่ไหน ตนเองเชื่อว่าก็จะมีการตื่นตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ครม.สัญจรนัดแรก ตนเองเลือกไป จ.หนองบัวลำภู ซึ่งเป็นจังหวัดที่จีดีพี ต่ำที่สุด เป็นจังหวัดที่ยากจนที่สุด ถือว่าเป็นการส่งสัญญาณว่ารัฐบาลให้ความสนใจกับเรื่องพวกนี้ การที่ลงพื้นที่ต่างจังหวัด จังหวัดข้างเคียงก็มีความสำคัญ เพราะรู้อยู่แล้วว่าทุก ๆ จังหวัด มีความต้องการความช่วยเหลือในหลาย ๆ มิติ ไม่ว่าจะเป็นความช่วยเหลือเรื่องการเกษตร เรื่องน้ำ น้ำท่วม น้ำแล้ง เป็นต้น

นายกฯ กล่าวต่อว่า การลงพื้นที่ ถือเป็นการมอบอำนาจให้กับเจ้าหน้าที่ เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ตนเองเชื่อว่าการลงหน้างานมีส่วนช่วยเหลือ ทำให้เขามีความมั่นใจขึ้น แต่ว่าเหนือสิ่งอื่นใดไม่ได้ไปคนเดียว ทั้งคณะรัฐบาลไปหมด ทุกกระทรวง ทบวง กรม ไปหมด มีการกำหนด KPI ชัดเจนว่ามีอะไรบ้าง และเป็นการสร้างความคาดหวังให้พี่น้องประชาชนในครั้งต่อไปที่เราจะไป ครม.สัญจร ว่า ถ้าเกิด ครม. มา จังหวัดข้างเคียงจะได้อานิสงส์อะไรบ้าง ทั้งนี้ การลงพื้นที่แต่ครั้งต้องแบ่งเป้าหมายเป็น 2-3 อย่าง หนึ่ง ในแง่ของมวลชน ต้องมีการพบปะมวลชน เพราะต้องการจะได้เห็นจริง ๆ ว่า ในสายตาของเขามีความทุกข์ยากมากน้อยขนาดไหน เรื่องบางเรื่องที่เขาร้องเรียนมา บางทีเขาร้องเรียนมาแล้ว ตนเองไม่ได้ยิน เพราะถูกกันออกไป ตนเองก็อยากไปได้ยินเองเวลาไปลงพื้นที่ ว่าเขาพูดเรื่องอะไรกันบ้าง ตรงนี้ก็เป็นเรื่องที่เราจะรับฟังได้โดยตรง โดยไม่มีการกีดกันเลย การได้พบข้าราชการ ก็เป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะว่าไม่ฉะนั้น โอกาสที่จะได้พบกับข้าราชการฝ่ายปกครองก็น้อย ได้พบกับนายอำเภอ ได้พบกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดต่าง ๆ ตนเองเชื่อว่าเป็นอะไรที่ให้ความรู้กับทั้งกับตนเอง และรัฐมนตรีหลาย ๆ ท่านในหลายเรื่อง

เมื่อถามว่า การลงพื้นที่บางครั้ง มีของฝากจากประชาชนเป็นพวกผลิตภัณฑ์ศิลปะต่าง ๆ ด้วยใช่หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า มี ซึ่งบางอย่างตนก็ไม่เคยทราบ ก็ต้องยอมรับจริง ๆ ก่อนที่จะเดินทางเข้าสู่ถนนการเมือง ก็ไปแต่จังหวัดใหญ่ ๆ อย่างเดียว แต่ปัจจุบันก็ไปจังหวัดเล็ก ๆ หลายจังหวัด เช่น จ.เพชรบุรี ประชาชนให้ผ้าพันคอเป็นผ้าเพ็ชรราชวัตร คล้าย ๆ ผ้าลินิน สวยมากสวยจริง ๆ ทุกคนเห็นแล้วร้องว้าวหมด และเรายังมีผ้าดอนกลอย

เมื่อครั้งที่ตนเองไปฝรั่งเศสกับอิตาลี ได้นำไปแจก และทำมาแจกทูตานุทูตทั่วประเทศ ซึ่งตนเองได้ไปดูวิธีการย้อม คือจริง ๆ แล้ว ครามใช้เป็นใบย้อมออกมาทีแรกก็เป็นสีเขียว พอสะบัด ๆ ก็กลายเป็นสีน้ำเงินเหมือนกางเกงยีน เมื่อเดือนที่แล้วไป ZEGNA มา ไปอิตาลีมา ไปเจอกับ CEO ก็นำของไปให้เขาดูมีหลาย ๆ อย่าง โดยได้บอกเขาว่าเราอยากจะผลักดัน เขาก็บอกยินดี

นายกฯ กล่าวต่อว่า ยังมีผืนที่ไปผูกให้กับท่านประธานาธิบดีฝรั่งเศส ซึ่งเป็นสีธงชาติฝรั่งเศสเหมือนธงไทยแดงขาวน้ำเงิน ถือว่าฝรั่งเศสเป็นเมืองแห่งแฟชั่น อย่างน้อยเราก็มีความภาคภูมิใจ ไม่ได้อายอะไร ผูกด้วยความภาคภูมิใจ นอกจากผ้าพันคอ ยังมีผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เช่น กระเป๋ากระจูดรายา จากนราธิวาส ซึ่งจำได้ที่ฝรั่งเศสกำลังจะไปประชุมพอดี นำเอาผ้าขาวม้ามาพาดแล้วดูเก๋เท่ ทำให้ทุกคนสนใจมาก

นายกฯ กล่าวย้ำว่า ทั้งหมดเป็นผ้าที่ชาวบ้านให้ ไม่ได้ไปแอบซื้อ พอกลับมาแต่ละที่ ก็จะเลือกเก็บไว้ให้มีความหลากหลาย บางชิ้นก็ซ้ำ เพราะว่าหมู่บ้านเดียวกัน สีคล้ายกันมาก ก็จะเลือกสีเด่น ๆ ออกมานำไปใช้ นำไปโชว์ให้ต่างประเทศเห็นถึงความสวยงาม ผลักดันสินค้าจากฝีมือของชาวบ้านให้ต่างชาติได้เห็น.