เมื่อเวลา 05.20 น. วันที่ 21 มิ.ย.67 ร.ต.อ.เวชยันต์ หิรัญญสุวรรณ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองตรัง รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุมีผู้เสียชีวิตคาที่ บนถนนบ้านหนองยวน ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย ตำรวจสายตรวจรถยนต์ 20 แพทย์เวร รพ.ตรัง และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลสถานตรัง (บ้วนเต็กเซี่ยงตึ๊ง)

ที่เกิดเหตุบริเวณด้านหลังสถานีรถไฟตรัง เป็นถนนทางโค้งฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง พบศพ นายสุพร ยิ้วเหี้ยง อายุ 50 ปี อาชีพรับจ้างทำหมูย่าง สภาพศพนอนหงายจมกองเลือดร่างแหลก แขนขาผิดรูป มีเศษชิ้นส่วนรถกระจายเกลื่อนถนน ห่างไป 50 เมตร พบรถจยย.ฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงินเทา ทะเบียน ขจค 767 ภูเก็ต ของผู้ตายสถาพพังยับเยินติดคาอยู่หน้ารถกระบะอีซูซุ สีขาว ทะเบียนตรัง ติดสติ๊กเกอร์ข้างหลังคำว่า “วาซาบิ” สภาพหน้ารถพังยับเยินจนฝากระโปรงหน้าเปิด ส่วนคนขับทิ้งรถหลบหนีไป จึงเก็บและบันทึกไว้เป็นหลักฐาน

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณจุดเกิดเหตุ และกล้องพลเมืองดีที่ถ่ายไว้สามารถบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ โดยช่วงเวลาเกิดเหตุประมาณ 04.48 น. เป็นช่วงเวลาฝนตกลงมาเริ่มเบาบาง ปรากฎภาพผู้เสียชีวิตสวมเสื้อกันฝนขี่รถจยย.ในเลนตนเอง ก่อนรถกระบะคันดังกล่าวขับข้ามเลนมาด้วยความเร็วชนประสานรถจยย.อย่างจังก่อนจะลากร่างผู้เสียชีวิตมาประมาณ 10 เมตร ร่างกระเด็นไปติดอยู่บนขอบถนน ส่วนยังลากรถจยย.ติดไปด้วย โดยฝากระโปรงหน้าเปิดหงายขึ้นมา ก่อนที่รถจะไปหยุดจอดนิ่งจากจุดที่ชนครั้งแรกรวมระยะทางประมาณ 50 เมตร

ขณะเดียวกันพลเมืองดีได้บันทึกภาพคนขับรถกระบะไว้ได้เป็นเพศชาย ขับรถมาเพียงคนเดียว หลังจากเกิดเหตุได้ลงจากรถสวมเสื้อยืดสีดำ นุ่งกางเกงยีนสีดำ สะพายกระเป๋าสะพายข้าง แล้วรีบเดินปรี่เข้าไปในตึกตรงข้ามศพ ก่อนเดินโทรศัพท์ออกมาจากตึกทำทีเหมือนเป็นผู้อาศัยอยู่ในตึกแล้วเดินวนเวียนชำเลืองมองร่างผู้เสียชีวิต จากนั้นเดินหายไปจนสุดกล้องวงจรปิดและกล้องพลเมืองดี โดยทิ้งรถกระบะเอาไว้ในที่เกิดเหตุดังกล่าว

เบื้องต้นจากการสอบถามญาติผู้เสียชีวิต ทราบว่า ผู้เสียชีวิต ประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไป และรับจ้างทำหมูย่าง ก่อนเกิดเหตุได้ขี่รถจยย.ออกมาส่งหมูย่างภายในตัว อ.เมืองตรัง และขณะเกิดเหตุคาดว่าได้ส่งหมูย่างเสร็จสิ้นแล้วกำลังขับรถกลับบ้าน แต่กลับมาถูกพุ่งชนเสียชีวิตเสียก่อน เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจสอบผู้ครอบครองรถกระบะเพื่อประสานมาสอบสวนว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ เพื่อเร่งติดตามตัวคนขับมาสอบสวนดำเนินคดีขั้นตอนกฎหมายต่อไป