การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปหรือยูโร 2024 รอบแบ่งกลุ่ม นัดที่สอง วันศุกร์ที่ 21 มิ.ย. คู่ดึกเวลา 02.00 น. ที่สนามไลป์ซิก สเตเดี้ยม ในเมืองไลป์ซิก คู่บิ๊กแมตช์ “อัศวินสีส้ม” เนเธอร์แลนด์ ทีมอันดับ 7 โลก อดีตแชมป์ยูโร 1988 เจอกับ “ตราไก่” ฝรั่งเศส ทีมอันดับ 2 โลก และรองแชมป์ฟุตบอลโลก 2022 ถ่ายทอดสดช่อง 9 MCOT (ช่อง 30)

*เวกฮอร์สต์นั่งสำรองตามเดิม
โรนัลด์ คูมัน กุนซือมาดเข้มของ “อัศวินสีส้ม” เนเธอร์แลนด์ ไม่น่าจะให้ เวา เวกฮอร์สต์ กองหน้าร่างโย่งลงตัวจริง แม้เป็นตัวสำรองลงมาทำประตูเกมที่แล้วเอาชนะโปแลนด์ 2-1 แนวรับ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ และ สเตฟาน เดอ ฟรายจ์ จะทำหน้าที่คู่เซ็นเตอร์แบ็ก ขณะที่เกมรุก เฌเรมี ฟริมปง จากเลเวอร์คูเซน, โคดี กัคโป จากลิเวอร์พูล และ เมมฟิส เดอปาย จากแอตเลติโก มาดริด เป็น 3 ประสานแดนบน

Netherlands’ forward #09 Wout Weghorst (C) and Netherlands’ defender #04 Virgil van Dijk (R) take part in a MD-1 training session in at the team base camp in Wolfsburg, on June 20, 2024, on the eve of their UEFA Euro 2024 Group D football match against France. (Photo by Christophe SIMON / AFP)

*ยูฟ่าคาดเอมบัปเปลงไม่ได้
ดิดิเยร์ เดสชองส์ กุนซือทีม “เลอ เบลอส์” แม้ชนะออสเตรีย 1-0 แต่มีปัญหาสำคัญมากคือ  คีลิยัน เอมบัปเป กองหน้าอันดับหนึ่งที่บาดเจ็บจมูกหักในนัดก่อน ติดพลาสเตอร์ยาลงซ้อมได้ แต่ยังคงไม่แน่ว่าจะลงสนามได้หรือไม่ แม้เจ้าตัวโพสต์โซเชียลว่า “ไม่มีชัยชนะใดที่ไม่เสี่ยง” ก็ตาม

France’s forward #10 Kylian Mbappe wears a face mask as he takes part in a MD-1 training session at the Leipzig Stadium in Leipzig on June 20, 2024, on the eve of their UEFA Euro 2024 Group D football match against Netherlands. (Photo by FRANCK FIFE / AFP)

เว็บไซต์ยูฟ่าคาดการณ์ผู้เล่นที่จะลงสนามก็ระบุว่า เอมบัปเป ไม่น่าจะได้ลง ส่วนสื่อดังทั้งอีเอสพีเอ็นและเลอ กิ๊ป ก็ต่างคาดว่าเอมบัปเป ลงไม่ไหว อย่างน้อยก็ในฐานะ 11 คนแรก โดยอดีตแพทย์ประจำทีมน้ำหอมเผยก่อนหน้านี้ว่า ประธานเป้น่าจะต้องพักอย่างน้อย 10 วัน

เชื่อว่า 3 แนวรุกจะประกอบด้วย อุสมาน เดมเบเล, มาร์คัส ตูราม และ โอลิวิเยร์ ชิรูด์ โดยมี อองตวน กรีซมันน์ เป็นหน้าต่ำ ตำแหน่งอื่นสมบูรณ์พร้อมหมด แนวรับ วิลเลียม ซาลิบา จากอาร์เซนอล ยืนคู่กับ ดาโยต์ อูปาเมกาโน โดยมี เตโอ เอร์นันเดซ และ จูลส์ กุนเด ทำหน้าที่ฟูลแบ๊ก ตรงกลาง เอนโกโล กองเต เล่นได้ดีในวัย 33 ปี เป็นตัวจริงคู่กับ อาเดรียน ราบิโอต์

*เจอกันช่วงหลังกังหันลมไม่รอด
สถิติเจอกันมา 30 ครั้ง ฝรั่งเศส ทำได้ดีกว่า คว้าชัยไปได้ 16 เสมอ 3 แพ้ 11 ยิ่งหากนับเฉพาะช่วงหลัง 8 เกมหลังสุดพบว่า ฝรั่งเศส ชนะได้ถึง 7 โดยล่าสุดเป็นการชนะแบบไปกลับในยูโรรอบคัดเลือกที่ผ่านมาที่เปิดบ้านชนะก่อน 4-0 และบุกไปชนะ 2-1 ขณะที่เนเธอร์แลนด์ ชนะได้เกมเดียวในยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก เมื่อปี 2018 อย่างไรก็ตาม หากดูแค่ที่เจอกันในยูโรรอบสุดท้าย เนเธอร์แลนด์ ชนะ 4-1 เมื่อปี 2008, ชนะ 3-2 เมื่อปี 2000 แต่ในปี 1996 ฝรั่งเศส ชนะจุดโทษในรอบก่อนรองชนะเลิศ หลังจากเสมอใน 120 นาที 0-0

ร้านรับวางเดิมพันถูกกฎหมายยังคงยกให้ ฝรั่งเศส เป็นต่อ มีโอกาสชนะมากกว่า ถึงแม้อาจไม่มีเอมบัปเป ในอัตราต่อรอง 5-4 (แทง 4 ได้ 5) ความน่าจะเป็นที่จะชนะ 53.5% ขณะที่อัตราเนเธอร์แลนด์ชนะ 9-4 (แทง 4 ได้ 9) มีโอกาสชนะ 24.4% และโอกาสเสมอ 11-5 (แทง 5 ได้ 11) ความน่าจะเป็น 27.8%