นายกองตรี ดร.ธนกฤติ กล่าวว่า ผู้เสียหายมายื่นเรื่องที่กระทรวง เรื่องเกี่ยวกับศักดิ์ศรีความเป็นสามี เนื่องจากภรรยาตนเองมีลักลอบมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับผอ.รพ.สต. ระหว่างที่ยังใช้ชีวิตฉันสามีภรรยากับผู้ร้อง ซึ่งสอบถามทราบว่า เป็นคู่สามี ภรรยาที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส แต่อยู่กินกินโดยพฤตินัย มีลูกด้วยกัน ในส่วนของกระทรวงสาธารรสุข จะมีการตรวจสอบในส่วนของผอ.รพ.สต.ที่ถูกอ้างถึง เนื่องจากเป็นบุคลากรในสังกัดกระทรวง เบื้องต้นปลัดกระทรวงสาธารณสุข มีข้อสั่งการให้นายแพทย์สสจ. ออกคำสั่งย้ายผอ.คนดังกล่าวมาช่วยราชการภายในจังหวัด โดยในวันที่ 21 มิ.ย. ตนก็ได้เรียกผอ.ท่านนั้นเข้ามาสอบถามข้อเท็จจริงด้วย แต่ในเบื้องต้น ทราบว่า ทั้งคู่รู้จักกันในงานสัมมนาเมื่อเดือนส.ค.2566 มีการพูดคุยสอบถาม ฝ่ายหญิงแจ้งว่าโสด ไม่มีความสัมพันธ์กับสามีตนเองแล้ว ส่วนทางฝ่ายผอ.ก็อยู่ในสถานะโสด ไม่ได้มีการจดทะเบียนสมรส ส่วนจะมีภรรยาที่ไม่ได้จดทะเบียนอยู่หรือไม่ก็ต้องตรวจสอบ ซึ่งเป็นข้อมูลที่ปกปิดไม่ได้  

“เราได้ตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงว่า มีความผิดเรื่องของจรรยาบรรณ วินัยที่หรือไม่ โดยเฉพาะตัวเองเป็นระดับบริหารระดับของในส่วนของการบริการด้านสาธารณสุขปฐมภูมิ โดยจะใช้เวลาในการสอบข้อเท็จจริงราวๆ 2 สัปดาห์ก็จะรู้ผล ซึ่งต้องให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย” นายกองตรี ดร.ธนกฤติ กล่าว และว่า ในส่วนของการลงโทษนั้น ต้องดูที่การประเมินระดับความผิด ซึ่งการลงโทษตั้งแต่ภาคทัณฑ์ ตักเตือน ตัดเงินเดือน ปลดออก ไล่ออก ขึ้นอยู่กับความเสียหาย ความร้ายแรงของความผิด หากปรากฏชัด หากเป็นสามี ภรรยา จดทะเบียนสมรสกัน แล้วรู้อยู่แล้วว่าเขามีครอบครัวอยู่แล้วยังไปยุ่งอีก ก็เป็นความผิดวินัยร้ายแรง มีโทษสูงคือปลดออก ถึงไล่ออก เมื่อถูกไล่ออกก็จะไม่ได้สิทธิรับบำเหน็จบำนาญข้าราชการ อย่างไรก็ตาม ยังมีสิทธิในการอุทธรณ์คำสั่งได้

นายกัณฐัศว์ กล่าวว่า ตนพาผู้เสียหายซึ่งเป็นสามีมาร้องต่อนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข เพื่อให้ตรวจสอบไทม์ไลน์การคบหากันของผอ.รพ.สต. ทับซ้อน หรือทราบอยู่แล้วหรือไม่ว่า ผู้เสียหายกับผู้หญิงนั้นคบหากัน ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน ฉันสามีภรรยาอยู่แล้วหรือไม่ ไปรับไปส่งที่บ้าน เห็นผู้ชายอยู่ที่บ้านอย่างไร ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย ฝั่งนั้นหากบริสุทธิ์ใจก็ขอให้มาแสดงคงามบริสุทธิ์ใจ  

ขณะที่นายเอ ผู้เสียหาย กล่าวว่า ตนไม่กังวลว่า จะถูกฟ้องกลับ เพราะตนมีหลักฐานเป็นแชทว่าตนกับภรรยาคุยกันอย่างไร เมื่อไหร่ ส่วนที่เขาคุยกับผอ.ก็ชัดเจนว่า เมื่อไหร่ ก็ขอให้เอาออกมาเปิดเผย มาบอกว่าลบทิ้งไม่มีหลักฐาน พูดปากเปล่าก็ไม่ใช่ ทั้งนี้ ตนคบกันมา 5 ปี แล้วบอกว่าแยกกันไปเติบโต เขากล่าวก่อนที่จะเริ่มมีความสัมพันธ์กับผอ.ที่ตนเองจับได้ แต่ไทม์ไลน์ที่เขาคุยกันนั้น คุยกันมาก่อนหน้านี้แล้ว ที่บอกว่าเลิกแล้ว ตนตนตอแยนั้นไม่ใช่ เพราะตนมีหลักฐาน การอยู่บ้าน ซักผ้า อยู่บ้านกับภรรยา กับวันที่ตนจับได้ว่ามีแชทผอ.ตนก็ยังใช้ชีวิตปกติกับภรรยา ที่บอกว่า เลิกแล้ว แต่ตนไปขืนใจ หลังเลิกกัน และมีกุญแจเข้าบ้าน เรื่องนี้หากคนเลิกกันดีแล้ว ก็ต้องไม่มีกุญแจ ต้องบอกที่บ้านว่า แยกกันอยู่แล้ว แต่นี่ที่บ้านเขาก็ยังรับรู้ว่าคนอยู่บ้านและใช้ชีวิตปกติกับภรรยา บ้านหลังนั้นก็ยังเป็นชื่อของตน และยังมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับภรรยา ซึ่งตนมีคลิปการใช้ชีวิตประจำวันกับภรรยา เพราะตนคิดแล้วว่า เขาต้องตอบแบบนี้ก็เลยเก็บหลักฐานทุกอย่างมีรูป มีวันที่

ผู้สื่อข่าวถามว่าฝ่ายหญิงเป็นพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขหรือไม่ นายกองตรี ดร.ธนกฤติ กล่าวว่า เป็นพยาบาลของโรงพยาบาลเอกชน รู้จักกันขณะที่สัมมนา

ผู้เสียหายจะมีการไปร้องต้นสังกัดของฝ่ายหญิงที่เป็นพยาบาลหรือไม่ นายกัณฐัศว์ กล่าวว่า ยัง แต่ตอนนี้ดำเนินการในส่วนของผอ.ก่อน หาข้อเท็จจริงในส่วนนี้ก่อน ส่วนของพยาบาลนั้น ทางฝ่ายสามีอยากให้หาข้อเท็จจริงในส่วนของผอ.ก่อน ส่วนฝ่ายหญิง ต่างฝ่าย หากปัญหาจบกันได้ด้วยดี ส่วนตัวคิดว่า น่าจะเป็นทางออกที่ดี เพราะมีลูก หากฝ่ายฝ่ายดำเนินการกับทางภรรยาก็เกรงว่าลูกจะได้รับผลกระทบ.