เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 19.00 น. วานนี้ (18 มิ.ย.) ที่ร้านเดอะนัว หมูกระทะ ด้านหลังมหาวิทยาลัยขอนแก่น บ้านโนนม่วง ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น ผศ.ดร.พรรณวดี ตันติศิรินทร์ ที่ปรึกษาเครือข่ายกลุ่มสตรี 20 จังหวัดภาคอีสานและอดีตแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงขอนแก่น พร้อมด้วยแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงในหลายอำเภอของ จ.ขอนแก่น มาร่วมกันกินหมูกระทะเพื่อร่วมพูดคุยและแสดงความยินดี ภายหลังจากศาลได้พิจารณาอนุญาตให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้รับการประกันตัว ภายหลังจากอัยการได้มีคำสั่งฟ้องตามความผิดมาตรา 112

โดยกลุ่มคนเสื้อแดงกว่า 30 คน ได้พร้อมใจกล่าวแสดงความยินดีกับท่านนายกทักษิณ คนไทยไม่ทิ้งกันและร่วมพูดคุยกันถึงการดำเนินงานร่วมกันในระดับพื้นที่ภายหลังจากที่ทุกคนรอคอยให้วันนี้มาถึงและการเข้าสู่การต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรม

ผศ.ดร.พรรณวดี กล่าวว่า วันนี้ทุกคนคลายความอึดอัดและต่างต้องการที่จะพูดจึงนัดกัยมากินหมูกระทะเพื่อร่วมแสดงออกเชิงสัญลักษณ์แสดงความยินดีกับนายกทักษิณ ซึ่งก็เป็นเรื่องบังเอิญอย่างมากเพราะร้านเดอะนัว นี้ คุณอุ้งอิ้ง และคณะได้มารับประทานเป็นอาหารเย็นร่วมกันกับ ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยและคณะทำงาน เพราะหมธกระทะเป็นอาหารยอดนิยมของคนอีสาน เป็นซอฟพาวเวอร์ด้านอาหารที่รู้จักกันทั่วทั้งโลก ดังนั้นทุกคนที่ได้มาทานหมูกระทะร่วมกันวันนี้นอกจากจะพร้อมใจกันใส่เสื้อสีแดงแล้วยังคงได้พูดคุยกับคลายความอึดอั้นตันใจ โดยเฉพาะช่วงก่อนหน้านี้ที่แต่ละคนก็วิจาร์และพูดกันไปต่างๆนานา ทั้งว่าท่านนายกจะไปต่างประเทศบ้าง ไม่มารายงานตัวต่อศาลบ้าง หรือแม้กระทั่งการพูดถึงการกระทำการต่างๆเพื่อที่จะไม่มาศาล แต่พอท่านนายกทักษิณ มาจริง มาสุ้คดีจริงและมาเข้าสู่กระบวนการของศาลจริง ถือว่าท่านเป็นคนจริงที่มารับโทษและเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมที่หลายคนควรเอาเป็นตัวอย่าง

“วันนี้แสดงให้เห็นแล้วว่าความยุติธรรมในการกระบวนการของศาลนั้นมีจริง ที่ผ่านมาเราสู้มาตลอด ท่านนายกทักษิณ ถูกกระทำจากการรัฐประการจนท่านได้กลับมาต่อสู้ และมาสู้คดี วันนี้คนเสื้อแดงและเชื่อว่าอีกหลายคนที่ไม่กล้าแสดงตัวทั้งกลุ่มนักวิชาการ นักธุรกิจและอีกต่อหลายคนนั้นดีใจและยินดีแต่ไม่กล้าแสดงออกเพราะเหตุผลส่วนตัว ซึ่งเชื่อมั่นว่าทุกคนรอคอยที่จะให้คุณทักษิณมากอบกู้เศรษฐกิจเพราะยังไม่เห็นตัวว่าจะมีใครทำได้”

ผศ.ดร.พรรณวดี กล่าวต่ออีกว่า ไม่อยากบอกว่าไม่มีตัวหรือไม่มีใครที่จะมากระตุ้นเศรษฐกิจหรือแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจหรือปัญหาปากท้องให้กับประชาชนต่อจากนี้ไปได้เหมือนคุณทักษิณ ดังนั้นเศรษฐกิจไทยจะมีความหวังและจะกลับมาคึกคักอีกครั้งในอาเซียน ส่วนแรงกระเพื่อมทางการเมืองจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้นไม่ขอพูดถึงเพราะภาคประชาชานั้นทำงานเคียงข้างกับนายกทักษิณ มาตั้งแต่พรรคไทยรักไทย จนถึงพรรคเพื่อไทยและจะอยู่ด้วยกันและเคียงข้างกันตลอดไป และที่สำคัญพรรคเพื่อไทยมีการประเมินผลงาน สส.และรัฐมนตรี จึงเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องทำงานเพื่อประชาชนอย่างเต็มที่ทุกวัน.