สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. ว่า นายอิสราเอล คัตซ์ รมว.การต่างประเทศอิสราเอล กล่าวว่า ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องใกล้บรรลุข้อตกลงอย่างเป็นทางการ “ที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนเกม” ระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน โดยเมื่อ “สงครามเต็มรูปแบบ” เกิดขึ้น กลุ่มฮิซบอลเลาะห์จะถูกทำลาย และเลบานอนจะได้รับความเสียหายอย่างมหาศาล


ขณะที่กองทัพอิสราเอลออกแถลงการณ์ ว่า “แผนปฏิบัติการทางทหารเชิงรุก” ต่อเลบานอน “ได้รับการอนุมัติและอยู่ระหว่างการประเมินขั้นสุดท้าย” เพื่อเพิ่มความพร้อมให้กับทหารในสมรภูมิ

ท่าทีดังกล่าวของอิสราเอลเกิดขึ้น หลังกลุ่มฮิซบอลเลาะห์เผยแพร่คลิป จำลองการโจมตีเป้าหมายหลายแห่งในอิสราเอล รวมถึงท่าเรือในเมืองไฮฟา ซึ่งเป็นเมืองท่าทางตอนเหนือของอิสราเอล


ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เทนทันยาฮู ผู้นำอิสราเอล กล่าวมานานระยะหนึ่งแล้ว ว่าจะยกระดับปฏิบัติการทางทหารตามแนวชายแดนทางเหนือของประเทศ ที่ติดกับเลบานอน เพื่อตอบโต้กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ซึ่งยิงขีปนาวุธและจรวดข้ามพรมแดนมายังอิสราเอลอย่างต่อเนื่อง


อย่างไรก็ตาม นายอามอส โฮคชไตน์ ผู้แทนพิเศษของสหรัฐ เยือนเลบานอน เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ต่อจากการเยือนอิสราเอล และเรียกร้องทุกฝ่ายร่วมกัน “ลดความรุนแรง” หลังการทำสงครามครั้งใหญ่ เมื่อปี 2549 ที่หลายฝ่ายมองว่า เป็นการสู้รบระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ มากกว่าอิสราเอลกับเลบานอน

ด้านสหประชาชาติ (ยูเอ็น) แสดงความกังวลมากขึ้นในระยะหลัง ว่าการปะทะกันตามแนว “เส้นสีน้ำเงิน” ซึ่งเป็นเส้นแบ่งเขตแดนระหว่างอิสราเอลกับเลบานอน ที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) เป็นผู้กำหนด ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง สหประชาชาติขอเรียกร้องให้คู่กรณีทั้งสองฝ่าย ยุติการใช้ความรุนแรงต่อกันทันที เพื่อไม่ให้สถานการณ์ลุกลามขยายวงกว้าง บานปลายจนกลายเป็นความขัดแย้งระดับภูมิภาค.

เครดิตภาพ : AFP