เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวุฒิธร มิลินทจินดา หรือ วู้ดดี้ กับแฟนหนุ่ม โอ๊ต อัครพล ให้สัมภาษณ์ภายหลังที่ประชุมวุฒิสภามีมติเห็นชอบพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่…) พ.ศ. … หรือกฎหมายสมรสเท่าเทียม จะดำเนินชีวิตต่ออย่างไร ว่า หลังจากกฎหมายผ่านแล้ว ทุกอย่างก็คงเปลี่ยนไป  ซึ่งเราก็จะมีสิทธิเท่าเทียมกับทุกคนในประเทศ เพราะเรารอคอยกฎหมายนี้มานาน ฉะนั้นสิทธิในการดูแลรักษากันและกัน รวมถึงสิทธิเรื่องของทรัพย์สินต่างๆ แต่สุดท้ายแล้วเรามีเรื่องของความเท่าเทียมกันทุกคน และเราก็จะใช้ชีวิตต่อไป โดยไม่ต้องห่วงกันและกัน

ส่วนกฎหมายสมรสเท่าเทียมผ่านแล้วการใช้ชีวิตจะเปลี่ยนไปหรือไม่นั้น ชีวิตไม่ได้เปลี่ยนไปในแง่กฎหมายก็จะมีเอกสารที่ยืนยันว่าเราคือคู่ชีวิต เป็นคู่ครองกันจริงๆ เหมือนกับคู่อื่นๆ ในแง่ของการดูแลกันและกัน  แต่ในแง่ความสบายใจเราเดินไปบนท้องถนนเราก็มีสิทธิเท่ากับทุกคน ซึ่งการแต่งงานเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของความเท่าเทียม สุดท้ายแล้วตนเองและแฟนหนุ่มก็เป็นประชาชนที่เท่าเทียมกับประชาชนทุกคน ดังนั้นชีวิตเราก็เปลี่ยนไปแน่นอน เพราะเรามีสิทธิเท่ากับทุกคน และถูกยอมรับในทางกฎหมาย

‘วู้ดดี้-โอ๊ต แฟนหนุ่ม‘ ยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมผ่าน

ขณะที่กฎหมายดังกล่าวมีผลกระทบกับสังคมไทยมากน้อยแค่ไหนนั้น วู้ดดี้ กล่าวว่า กฎหมายดังกล่าวมีผลกระทบกับสังคมไทยอย่างมาก เพราะกลุ่ม LGBTQIAN+ มีจำนวนมากมหาศาล และมีอีกหลายคนไม่ได้รับสิทธิตรงนี้ ซึ่งคิดว่ากฎหมายดังกล่าวเปลี่ยนประเทศไปโดยสิ้นเชิง ซึ่งพอมีการรับรองทางกฎหมาย เราไม่ต้องห่วงเรื่องสถานะ เราสามารถไปทำอะไรดีๆ ต่อสังคมได้อีกเยอะ โดยไม่ต้องห่วงเพราะเรามีที่ยืน

ด้านนายจิตศักดิ์ หลิมภากรกุล หรือ จีโน่ มาสเตอร์เชฟ ประเทศไทย ปีที่ 3 (MasterChef Thailand Season 3) กล่าวเช่นกันว่า วันนี้ดีใจมากที่วุฒิสภาผ่านร่างกฎหมายดังกล่าว สำหรับตนเอง เป็นคู่ที่ไม่สามารถแต่งงานกันได้ เพราะสามีไปสวรรค์แล้ว แต่ก็ดีใจและเป็นกำลังใจให้คนรุ่นต่อไปที่จะสามารถแต่งงานได้และใช้สิทธิเท่าเทียมกับทุกคน ซึ่งตนเองตอนที่สามีเสียชีวิตก็ไม่สามารถนำร่างสามีออกมาได้ เพราะเราไม่ได้จดทะเบียนสมรสด้วยกัน ฉะนั้นคู่ต่อไปที่กฎหมายผ่านแล้วก็จะได้สิทธิเท่าเทียมกับทุกคน และโอกาสที่จะได้ดูแลคู่ครองอย่างมีความสุข.