สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. ว่าสถาบันโรคติดเชื้อแห่งชาติญี่ปุ่น (เอ็นไอไอดี) เผยแพร่รายงาน ว่าจำนวนติดเชื้อแบคทีเรีย “สเตรปโตคอคคัส ชนิดเอ” ซึ่งก่อให้เกิดโรคที่เรียกว่า “แบคทีเรียกินเนื้อ” (Flesh-Eating Disease) เพิ่มเป็นอย่างน้อย 1,019 คนแล้ว นับตั้งแต่ต้นปีนี้ มากกว่าสถิติผู้ป่วยยืนยันตลอดทั้งปีที่แล้ว ซึ่งอยู่ที่ 941 คน และกรุงโตเกียวยังคงเป็นพื้นที่พบผู้ป่วยมากที่สุด


แบคทีเรียดังกล่าวแพร่กระจายได้ผ่านการสัมผัสละอองฝอย การติดต่อผ่านระบบทางเดินหายใจ และการสัมผัสกับสารคัดหลั่งจากร่างกายของผู้ป่วยโรคชนิดนี้ โดยอาการที่สามารถสังเกตได้ คือ การมีไข้ขึ้นสูงเฉียบพลัน ปวดและบวมตามแขนและขา และความดันโลหิตต่ำ เมื่ออาการทวีความรุนแรงจะส่งผลให้ระบบการทำงานของอวัยวะหลัก อาทิ หัวใจ ตับ และปอด ล้มเหลว ส่วนอัตราการเสียชีวิตจากการติดเชื้อแบคทีเรียชนิดนี้ สูงถึง 30%


อย่างไรก็ตาม บรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขในญี่ปุ่นเชื่อมั่นว่า เชื้อโรคชนิดนี้ไม่น่าก่อให้เกิดการแพร่ระบาดใหญ่เหมือนโรคโควิด-19 เนื่องจากไม่ใช่โรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจโดยตรง แต่เน้นย้ำให้ประชาชนเพิ่มการรักษาสุขอนามัยขั้นพื้นฐาน หมั่นล้างมือ และรักษาบาดแผลอย่างถูกวิธี นอกจากนี้ หากมีอาการน่าสงสัย ขอให้ไปพบแพทย์ทันที.

เครดิตภาพ : AFP