สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. ว่า มัวร์ กล่าวว่า การกระทำของเขา ซึ่งถือเป็นการอภัยโทษระดับรัฐที่กว้างขวางที่สุด ในประวัติศาสตร์อเมริกา มุ่งเป้าไปที่การจัดการกับความไม่ยุติธรรมทางสังคมและเศรษฐกิจ ซึ่งส่งผลกระทบอย่างมากต่อคนผิวสีหลายหมื่นคน

ทั้งนี้ เกือบครึ่งหนึ่งของการจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดทั้งหมดในรัฐแมริแลนด์ เมื่อช่วงต้นทศวรรษที่ 2000 เป็นกรณีที่เกี่ยวข้องกับกัญชา โดยคนผิวสีในรัฐ มีแนวโน้มถูกควบคุมตัวในข้อหาที่เกี่ยวข้องกับกัญชา มากกว่าคนผิวขาวถึง 3 เท่า

“ในวันนี้ พวกเราดำเนินการครั้งสำคัญในการประกาศใช้นโยบายประเภทต่าง ๆ ที่สามารถพลิกกลับความเสียหายในอดีต และช่วยให้เราทำงานร่วมกัน เพื่อสร้างอนาคตที่สดใส” มัวร์ กล่าวขณะลงนามในคำสั่งอภัยโทษ ในพิธีการที่เมืองแอนนาโปลิส

ภายหลังการลงประชามติทั่วรัฐ รัฐแมริแลนด์ได้ออกกฎหมายที่กำหนดให้กัญชาสำหรับผู้ใหญ่ และการขายปลีกยา เป็นสิ่งถูกต้องตามกฎหมาย เมื่อปี 2566 ซึ่งมัวร์ระบุว่า การอภัยโทษดังกล่าว จะขยายขอบเขตครอบคลุมผู้ใดก็ตามที่มีความผิดอาญาประเภทไม่ร้ายแรง เช่น การครอบครองกัญชา

อนึ่ง กัญชาเป็นธุรกิจที่มีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐในสหรัฐ โดยรัฐมากกว่าครึ่งหนึ่ง รับรองการใช้เพื่อการสันทนาการและการแพทย์ให้ถูกกฎหมาย ซึ่งนโยบายกัญชาเสรีข้างต้น ได้รับการสนับสนุนอย่างท่วมท้นจากชาวอเมริกัน

อย่างไรก็ตาม กัญชาถูกจัดอยู่ในหมวดหมู่ยาเสพติดประเภท 1 นับตั้งแต่ปี 2513 ภายใต้กฎหมายควบคุมยาเสพติด (ซีเอสเอ) ของสหรัฐ ร่วมกับเฮโรอีน, ยาอี และแอลเอสดี ซึ่งหมายความว่า ยาเสพติดประเภทนี้ ไม่ได้รับการยอมรับในการใช้ทางการแพทย์ และมีศักยภาพสูงในการนำไปใช้ในทางที่ผิด.

เครดิตภาพ : AFP