วันที่ 18 มิ.ย. นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา เตรียมเสนอของงบประมาณ วงเงิน 1,000 ล้านบาท  จากงบกลางรายการสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นจากคณะรัฐมนตรี(ครม.) เพื่อนำมาสร้างเส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงเมืองหลักสู่ 55 เมืองน่าเที่ยว และมีภาคเอกชนวิจารณ์ว่า รัฐบาลเอาแต่จัดงบเพื่อทำอีเวนต์ ไม่มีการทำยุทธศาสตร์และโครงสร้างระยะยาวด้านการท่องเที่ยว คงต้องชี้แจงว่า รัฐบาลต้องการสร้างกิจกรรมให้คนไทยเดินทางไปเที่ยว และคนต่างชาติพำนักอยู่ในประเทศไทยนานขึ้น เพื่อให้มีการใช้จ่ายมากขึ้น 

สำหรับงบที่จะเสนอขอครม. ไม่ได้ใช้จัดอีเวนต์อย่างเดียว แต่จะนำไปพัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวใหม่ๆ และพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะการปรับปรุงห้องน้ำในแหล่งท่องเที่ยวของเมืองรองหรือเมืองน่าเที่ยว 55 จังหวัด

ส่วนการทำการตลาดต่างประเทศ จะยังไม่เสนอของบประมาณเพิ่ม เนื่องจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท.ได้รับงบทำการตลาดต่างประเทศอยู่แล้ว แม้ว่ารัฐบาลได้ตั้งเป้าสร้างรายได้และนำนักท่องเที่ยวต่างชาติมามากกว่าที่ททท.ตั้งเป้าไว้ ก็จะให้ใช้งบประมาณเดิมที่ได้รับจัดสรรให้เต็มที่ไปก่อน แต่หากงบไม่พอจริงๆ จะเสนอของบกลางฯให้ 

นายอารัญ บุญชัย ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า การพัฒนาท่องเที่ยวเชื่อมโยงเมืองหลักสู่ 55 เมืองน่าเที่ยว ถือเป็นแผนระยะสั้นของกระทรวงฯในปีนี้ ส่วนแผนระยะยาว คือ นโยบาย Ignite Tourism Thailand ประกอบด้วย 5 ด้าน คือประสบการณ์ที่ดีทุกย่างก้าว, 5 Must do in Thailand, เมืองหลักและเมืองน่าเที่ยว, Hub of Asian, World Class Event Hub ซึ่งได้มอบหมายให้ส่วนที่รับผิดชอบไปดำเนินการแล้ว จะมีการบูรณาทำงานร่วมกับกระทรวงต่างๆ ด้วย

นอกจากนี้กระทรวงการท่องเที่ยวยังได้เตรียมเสนอครม. เพื่อพิจารณาต่ออายุมาโครงการช่วยเหลือเยียวยานักท่องเที่ยวต่างชาติที่บาดเจ็บและเสียชีวิตที่จะสิ้นสุดลงในวันที่ 31 ส.ค. 67 เพื่อคงมาตรการที่จะช่วยสร้างความมั่นใจแก่นักท่องเที่ยว โดยในช่วง 5 เดือน ที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวต่างชาติยื่นคำขอรับเงินช่วยเหลือเยียวยาจำนวนกว่า 50 ราย โดยคณะกรรมการได้เห็นชอบให้จ่ายเงินช่วยเหลือเยียวยาจำนวน 7 ราย โดยเป็นกรณีเสียชีวิต 4 ราย และกรณีบาดเจ็บ 3 ราย สำหรับอัตราชดเชยในโครงการนี้ ประกอบด้วย กรณีเสียชีวิตไม่เกิน 1 ล้านบาท การสูญเสียอวัยวะถาวร สูญเสียสายตา ทุพพลภาพถาวร ชดเชย 3 แสนบาท และค่ารักษาพยาบาลจ่ายตามจริงไม่เกิน 5 แสนบาท