ทำเอาชาวเน็ตลุ้นหนักมากหลังเพจดังออกมาโพสต์ใบ้ว่า “ขนลุก อดีตดาราสายเฮลตี้เลิกสามี สาเหตุไลฟ์สไตล์ไม่ตรงกัน” งานนี้ทำชาวเน็ตหลายคนต่างพากันพุ่งเป้าไปที่ นักแสดงสาว “เบเบ้ ธันย์ชนก” โดยในรายการ“ซานิเบาได้เบา” ได้ถามถึงเรื่องความสัมพันธ์กับสามี “บูม-สุธีร์ บวรวณิชย์” แต่สาวเบเบ้ก็เลี่ยงๆ คำตอบ ทำให้ยิ่งถูกจับตามากขึ้นอีก
ล่าสุดในงาน Vita Daily – Recharge Your Day เบเบ้ได้ตอบชัดๆถึงสถานะหัวใจและความสัมพันธ์ของเธอและหนุ่มบูมว่า
“ตอนนี้โสด ด้วยนิสัยส่วนตัวเราเป็นคนที่โอเคกับทุกสิ่งเลยไม่ได้คุยไม่ได้ปรับความเข้าใจจริงจังเลยเริ่มมีการละเลยกันบ้าง จนวันนึงมันก็เป็นอย่างนี้ ก็คุยกันเรื่อยๆ มีพูดขึ้นมาแต่ไม่คุยกันต่อจนเป็นปัญหาสะสม ระยะเวลาก็เป็นปีเหมือนกัน มันก็จะมีคุยกัน แล้วก็ดีกันเหมือนคนปกติทั่วไปพยายามปรับแล้ว ก็อยู่กับตัวมากขึ้นซึ่งจริงๆก็อยู่กับตัวเองมาตลอดแต่แค่พยายามบาลานซ์ชีวิตและโฟกัสความสุขของตัวเอง ตอนแรกก็เฮิร์ทปกติทั่วไปเลย แต่เราไม่ได้เกลียดกัน ทุกวันนี้ยังคุยกันอยู่ยังทำงานด้วยกัน เป็นเพื่อนที่ดีกันอยู่ เรียกว่าจบได้ด้วยดี จริงๆเราเป็นคนที่เก็บทุกอย่างเพื่อนก็ไม่ปรึกษา ความเข้าใจก็ไม่ปรับ พ่อแม่ก็ไม่บอก เป็นคนเก็บไว้คนเดียว ก็จะมีเพื่อนที่สังเกตเขาก็จะเข้าใจแต่ก็จะมีบางส่วนที่เพิ่งทราบพร้อมกัน เพื่อนก็บอกว่าถ้ามีอะไรก็ให้พูดให้บอกพยายามอย่าเก็บเอาไว้ เนื่องจากว่าเราเป็นคนที่จัดการความรู้สึกของตัวเองได้ค่อนข้างเก่งพอรู้สึกว่าเริ่มเครียดหรือมีอะไรที่ทำให้ไม่สบายใจเราก็จะมีวิธีการทำให้ตัวเองสบายใจขึ้น ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ เราก็เลยรู้สึกว่าสิ่งนี้เป็นเรื่องเล็กเลยมองข้ามไปได้”
“ตอนที่อักษรย่อ ออกมาก็ไม่ได้ตกใจแต่รู้สึกว่าไม่ได้อยากออกมาพูด เพราะว่าเราไม่ใช่คนที่แชร์เรื่องส่วนตัวอะไรแบบนี้อยู่แล้ว และไม่ใช่เรื่องที่เราภูมิใจที่จะบอกต่อ ก็รอจังหวะรอเวลาเพราะมันเป็นเรื่องของหลายฝ่าย อยากใหทุกคนสบายใจก่อน
เรื่องไลฟ์สไตล์ไม่ตรงกัน? จริงๆไลฟ์สไตล์มันก็ปรับได้หมด อาจจะเป็นเรื่องของความรู้สึกและสิ่งที่สะสมมาเรื่อยๆ ผ่านมาแล้วใช้ชีวิตได้ 100 เปอร์เซ็นต์ หากถามว่า พอแล้วไหมกับเรื่องความรักไม่พอ คือหลักๆเราอยู่ด้วยตัวเองได้ แต่ว่าก็ไม่ได้ปิดกั้น ไม่คุยกับใครเลย ชีวิตนี้จะลองโสดอยู่คนเดียว คือปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติเป็นตามจังหวะของมัน เรียนรู้ในอดีตที่ผ่านมาถ้าเกิดเราไปแพลนไปเร่ง ไปตั้งเป้าหมายว่าตอนนี้ต้องแต่งงาน ต้องทำอะไรอย่างมันก็จะจังหวะไม่ดี ทุกเรื่องที่ผ่านๆมาก็เป็นประสบการณ์ชีวิตให้เราโตมากขึ้น ให้เราเรียนรู้อยู่แล้ว”
ขอบคุณภาพประกอบจาก : thisisbebe
