เรียกได้ว่าหลังจากมีกระแสข่าวที่ทนายเจมส์ได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊ก เล่าชีวิตนักร้องที่น่าสงสารอย่าง “สไปรท์-ศุกลวัฒน์ พวงสมบัติ” ถูกสังกัดเก่าฟ้องเรียกค่าเสียหาย 14,000,000 บาท ซึ่งได้รับหมายเรียกทั้งครอบครัว 3 คน สไปรท์, คุณพ่อ และคุณแม่ ซึ่งอ้างว่า 1,000,000 วิว ศิลปินจะได้ 20,000 บาท ค่ายควรจะได้ 70% ของรายได้ศิลปิน เมื่อค่ายเรียกร้องค่าเสียหายได้ 14 ล้านบาท ศิลปินจะต้องมียอดวิวสูงถึง 2,000,000,000 วิว แต่ช่องที่เปิดรับรายได้นั้นดันไม่ใช่ของศิลปินเลย ภายหลังจากที่มีการนำเสนอข่าวออกไป สังคมพากันตั้งคำถาม ค่ายเอาเปรียบศิลปินมากเกินไปหรือไม่ พร้อมพากันขุดคุ้ยแฉค่ายกันล้นหลาม

ขณะที่หลายคนก็พากันสงสัยหนุ่มสไปรท์คือใคร ทำไมถึงถูกค่ายเรียกค่าเสียหายกว่า 14 ล้านบาท โดยวันนี้ทีมข่าว เดลินิวส์ออนไลน์ จะพาทุกคนย้อนรอยชีวิตของ “สไปรท์” เด็กน้อยผู้มีความฝันเล็กแต่กลายเป็นศิลปินเด็กที่ทำเอาคนในวงการเพลงทั่วโลกจับตามอง

สำหรับ “สไปรท์-ศุกลวัฒน์ พวงสมบัติ” มี AKA (ฉายาหรือนามปากกาในวงการแร็ปเปอร์) คือ SPRITE เกิดวันที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2548 ปัจจุบันอายุ 19 ปี เป็นคนจังหวัดฉะเชิงเทรา โดยเป็นลูกชายคนโตและมีน้องชาย 1 คน ซึ่งคุณพ่อเป็นพนักงานบริษัทและคุณแม่เป็นพนักงานทำงานที่โรงพยาบาล ทางครอบครัวมักจะใช้เวลาว่างหลังจากงานอาชีพหลัก มาทำงานเสริมโดยจะตระเวนขายของที่ตลาดนัดหรือเทศกาลงานต่าง ๆ

เส้นทางในวงการเพลง
สไปรท์เริ่มเป็นที่รู้จักมาก หลังจากตนเองไปร่วมออกรายการ Super 10 Season 2 ทางช่อง WORKPOINT ปี 2561 จนได้รับฉายาแจ้งเกิดคือ “สไปรท์ แร็ปเปอร์รองเท้าแตะ” ซึ่งได้โชว์ความสามารถการร้องเพลงลูกทุ่ง และโชว์สกิลการแร็ปให้กรรมการฟังจนอึ้งทั้งสตู พร้อมบอกว่าไอดอลที่ชื่นชอบและทำให้ตนเองกล้าที่จะมายืนจุดนี้ได้ก็เพราะ “ปู่จ๋าน ลองไมค์”

แต่อีกสิ่งหนึ่งที่ทำคนดูอบอุ่นและชื่นชมในความน่ารักของสไปรท์ และพากันประทับใจสุด ๆ ก็เพราะของรางวัลที่ขอในรายการนั้นคือ เตียง 2 ชั้น ซึ่งตั้งใจว่าจะเอากลับไปนอนกับพ่อแม่ที่บ้าน เหตุเพราะที่บ้านฝนตกบ่อยและน้ำท่วมขังทำให้การนอนหลับเป็นไปด้วยความยากลำบาก จึงวางแผนไว้ว่าอยากให้แม่และน้องนอนชั้น 2 เพื่อที่จะได้หลับสบาย ส่วนตนเองและพ่อจะเสียสละนอนเตียงชั้น 1 แทน และในวันนั้นความสามารถของสไปรท์เลยทำให้เขาชนะใจกรรมการและคนในห้องส่ง และสามารถพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นได้ว่า เด็กไทยยังมีคนเก่ง ๆ อีกเยอะมากจริง ๆ

หลังจากได้โชว์ฝีปากแร็ปไปได้ไม่นาน สไปรท์ก็ลงสมัครแข่งในรายการ Show Me The Money Thailand Season 2 และแน่นอนว่ากลายเป็นอีกหนึ่งในผู้เข้าแข่งขันที่น่าจับตามองทันทีตั้งแต่วินาทีแรกที่ฉาย เพราะอายุน้อยที่สุดในรายการ จนกลายเป็นที่ถกเถียงสนั่นในวงการแร็ปเด็กอายุแค่ 15 ปี เก่งหรือเจ๋งจากไหนก็ไม่อาจรับแรงกดดันบนสังเวียนความเดือดในวงการแร็พไหวหรอก

แต่ท้ายที่สุดสไปรท์ก็โชว์ศักยภาพการเป็นศิลปินอย่างแท้จริงออกมาให้เห็น ทั้งฝึกร้องเพลงฝึกเขียนเนื้อร้องอย่างหนัก และด้วยความพยายามที่ทุ่มเททั้งหมดทำให้เพลง “เดียวดาย” ยอดวิว 215,417,320 (ข้อมูล ณ วันที่ 17 มิ.ย. 67) และเพลง “ปิก้า ปิก้า” ยอดวิว 136,433,474 (ข้อมูล ณ วันที่ 17 มิ.ย. 67) ที่ใช้แข่งในรายการกลายเป็นฮิตทันที และสไปรท์ก็ได้ขึ้นแท่นเป็นถึง “รองแชมป์” ในปีนั้นอีกด้วย

ต่อมาสไปรท์ก็ได้ปล่อยซิงเกิลเพลงแรกออกมาชื่อว่า ไอ้ต้าว (Prod. By NINO) ปรากฏว่ามียอดวิวสูงถึง 72,027,175 (ข้อมูล ณ วันที่ 17 มิ.ย. 67) หลังจากนั้นสไปรท์ก็ไปร่วม Feat. กับศิลปินดังอีกมากมาย อาทิ กอล์ฟ ฟักกลิ้งฮีโร่, Bonnadol, P-HOT, อิง วราทร, GUYGEEGEE

นอกจากนี้ในปี 2564 Billboard Global เว็บจัดอันดับเพลงยอดนิยมระดับโลก ก็ได้จัดอันดับให้เพลง “ทน” ยอดวิว 420,722,627 (ข้อมูล ณ วันที่ 17 มิ.ย. 67) ที่ SPRITE x GUYGEEGEE อยู่ในลำดับ 89 ซึ่งทางเว็บไซต์รายงานว่าเพลงทนเป็นเพลงไทยเพลงแรกที่เข้าชาร์ต ทั้งนี้ทำให้วงการเพลง T-pop ของไทยเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นอีกเช่นกัน

สไปรท์กลายเป็นแร็ปเปอร์ที่หลายคนจับตาทุกความเคลื่อนไหว พร้อมพากันชื่นชมและยกย่องในความน่ารักของเขาเสมอ แม้ว่าเขาจะประสบความสำเร็จแล้วก็ไม่ลืมคนข้างหลัง เพราะในปี 65 เขาสามารถซื้อบ้านหลังแรกในวัยเพียง 16 ปี เพื่อเป็นของขวัญให้ครอบครัวที่อบอุ่นอีกด้วย…

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ : spritezakup