เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีเมื่อมีโพลสำรวจความนิยมทีไร นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาพรรคก้าวไกล และพรรคก้าวไกลมักกระเเสดี เป็นห่วงปมนี้จะยิ่งทำให้ก้าวไกล โดนประหาร หรือไม่ ว่า ไม่เป็นห่วง ต่อให้ยุบเราก็ยังโตได้ ที่มีคนประเมิน ว่าถ้ายุบพรรคก้าวไกลอาจได้คะแนนสงสาร ปรากฏการณ์นี้มีนัยสำคัญมาก มองแค่แบบสายตาสั้นไม่ได้ คิดไกลในอนาคตไม่ได้ มันอันตรายกับทุกฝ่ายในระบบการเมืองไทย อาจจะผลักให้สังคมการเมืองไทย มันเขม็งเกลียวมากขึ้น

นายชัยธวัช กล่าวว่า เราอุตส่าห์มีการเลือกตั้ง เป็นโอกาสที่สังคมค่อยๆ เปลี่ยนผ่านไปสู่ระบบการเมืองปกติมากขึ้นเรื่อยๆ เรากำลังทำลายโอกาสนี้ ดูเหมือนตอนนี้บรรยากาศสังคม มันไม่รู้สึกเราอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านดีขึ้นเลย รู้สึกกลับไปเป็นบรรยากาศเหมือนปี 2548, 2549 หรือ 2557 คิดว่าอันนี้เป็นประเด็นสำคัญว่า จริงๆ ต้องทบทวนแล้ว การยุบพรรคไม่ใช่ทางออก แต่เราต้องหาฉันทามติใหม่ของสังคมไทยให้ได้ ทุกฝ่ายอย่าไปจินตนาการถึงการเมืองไทยที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหายออกไปจาก มันต้องเป็นฉันทามติที่อยู่บนจินตนาการว่าทุกฝักทุกฝ่ายมีที่อยู่ที่ยืน ผลัดกันแพ้ ผลัดกันชนะ ผลัดกันมีอำนาจภายใต้กฎกติกา และระบบที่เรายอมรับร่วมกันได้ อันนี้สำคัญ

นายชัยธวัช กล่าวถึงกรณี 44 สส.พรรคก้าวไกล ซึ่งโดนเรื่องจริยธรรมด้วยนั้น โยงเรื่องยุบพรรค จะตั้งรับอย่างไร ว่า กระบวนการเดี๋ยว ป.ป.ช. ต้องสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานตรวจสอบข้อเท็จจริง ถ้ามีน้ำหนักเพียงพอ ถึงต้องไปยื่นให้ศาลฎีกานักการเมืองตัดสิน นี่แค่ตัดสิทธิพิจารณาจริยธรรมนักการเมือง ยังต้องมีกระบวนการเบื้องต้นเลย กกต. เป็นใครเนี่ย อยู่ดีๆ กกต. บอกดูเอกสารหนึ่งชิ้น แล้วบอกมีหลักฐานอันควรเชื่อได้แล้ว ยื่นร้องยุบพรรคเลย มันง่ายไปหน่อย

นายชัยธวัช กล่าวว่า แต่อันนี้เราก็จะได้เห็นว่า กระบวนการไม่ได้ปุ๊บปั๊บเร็ว ต้องในชั้น ป.ป.ช. ก่อน มีหลักฐานพยานอะไรแบบชัดเจน แล้วถึงจะส่งศาลฎีกานักการเมือง ความอันตรายของสิ่งที่เรียกว่าจารีตจริยธรรม มันไม่มีความชัดเจนแน่นอน เป็นเรื่องทรรศนะ รสนิยมแต่ละคน มันถึงมีปัญหามากเวลาเอาเรื่องนี้มาพิจารณาตัดสิทธิทางการเมือง เป็นโทษร้ายแรงเหมือนประหารชีวิตทางการเมืองตลอดชีวิตเลย ถามว่ามีโอกาสแค่ไหนที่ ป.ป.ช. จะเห็นว่า ผิดจริยธรรมขั้นร้ายแรง ตนยังคิดว่า ป.ป.ช. ไม่มีเหตุผลใดๆ ทั้งสิ้น ที่จะบอกว่าการกระทำที่พูดถึงกันในคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ก่อนหน้านี้ จะมากล่าวหาว่า สส.พรรคก้าวไกล ผิดจริยธรรมขั้นรุนแรง ไม่สมเหตุสมผลอย่างยิ่ง และมันยังต้องสู้ในชั้นศาลด้วย ตนคิดว่ามันไม่ใช่แค่ ป.ป.ช. อย่างเดียวเห็น ศาลฎีกาก็ต้องเห็นตรงกันด้วย ซึ่งยังมีโอกาสที่จะต่อสู้คดีอยู่

“คดียุบพรรคร้ายสุด แน่นอนถ้าร้ายสุดไม่มีทางอื่น ก็คือยุบพรรค แต่คดีจริยธรรม 44 สส. ร้ายสุดยังไง ผมก็มั่นใจว่าไม่มีทางโดน ป.ช.ช. ยื่นคำร้อง ยื่นฟ้องทุกคน ไม่มีทางที่จะไม่มีเหตุผลใดๆ ทั้งสิ้น นี่ร้ายสุดเลย พูดง่ายๆ ว่า ซีนาริโอที่ 44 สส. โดนหมด ไม่มีทางเกิดขึ้น 0% เพราะฉะนั้นผมคิดว่า ป.ป.ช. ไม่มีคำอธิบาย ผมว่าอันนี้ แล้วก็ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น แน่นอนเราไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเดินหน้าต่อไป” หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าว.