สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. ว่า พล.อ.ลอยด์ ออสติน รมว.กลาโหมสหรัฐ กล่าวถึงท่าทีล่าสุดของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ที่มีต่อสถานการณ์สงครามในยูเครน ว่าดินแดนของยูเครน “อยู่ภายใต้การยึดครองอย่างผิดกฎหมาย” โดยรัสเซีย ดังนั้น ปูติน “ไม่อยู่ในสถานะที่จะกำหนดเงื่อนไข และเรียกร้องกับยูเครนไม่ว่าในทางใด” และ “รัสเซียต่างหาก” ต้องเป็นฝ่ายถอนทหารออกไปจากยูเครน
"Putin has illegally occupied sovereign Ukrainian territory. He is not in any position to dictate to Ukraine what they must do to bring about a peace." – U.S. Defense Secretary Lloyd Austin III https://t.co/PvW3DqeJRV pic.twitter.com/zydSDEWIA4
— Anton Gerashchenko (@Gerashchenko_en) June 14, 2024
ทั้งนี้ ผู้นำรัสเซีย กล่าวว่า รัฐบาลมอสโกจะหยุดยิงถาวร และการเจรจาสันติภาพ “จะเกิดขึ้นอย่างจริงจัง” เมื่อกองทัพยูเครนถอนทหาร “อย่างเบ็ดเสร็จ” ออกจากภูมิภาคโดเนตสก์และลูฮันสก์ ที่อยู่ทางตะวันออก และภูมิภาคเคียร์ซอนและซาโปริชเชีย ที่อยู่ทางตอนใต้ ซึ่งภูมิภาคทั้งสี่แห่ง อยู่ภายใต้การยึดครองของรัสเซีย นับตั้งแต่สงครามในยูเครนเปิดฉาก เมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2565
⚡️ President Putin outlines conditions for peace
— RT (@RT_com) June 14, 2024
– Ukrainian troops must withdraw from the entire territory of the new Russian regions
– Kiev must declare there are no plans to join NATO
– As soon as Ukraine takes these steps Russia will ceasefire and be ready to negotiate pic.twitter.com/bKzkOA4SYD
ขณะเดียวกัน ปูตินกล่าวว่า นอกจากทหารยูเครนต้องถอนกำลังออกจากภูมิภาคทั้งสี่แห่ง “อย่างเบ็ดเสร็จ” รัฐบาลเคียฟต้อง “ละทิ้ง” ความพยายามทั้งหมด ที่จะเข้าเป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต)
อย่างไรก็ตาม ปูตินกล่าวว่า รัฐบาลมอสโกไม่ปฏิเสธข้อเรียกร้อง เกี่ยวกับ “การรักษาอธิปไตย” ของยูเครน ในภูมิภาคเคียร์ซอนและซาโปริชเชีย “ภายใต้เงื่อนไขที่ว่า รัสเซียจะยังคงต้องมีเส้นทางเชื่อมทางบกกับคาบสมุทรไครเมีย”
นอกจากนี้ ผู้นำรัสเซียกล่าวถึงมติของที่ประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 แห่ง หรือ “จี7” ซึ่งอิตาลีเป็นเจ้าภาพในปีนี้ มอบความสนับสนุนเพิ่มเติมให้แก่ยูเครน เป็นสินเชื่อมูลค่า 50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.83 ล้านล้านบาท) โดยใช้หลักประกันจากผลกำไรหรือดอกเบี้ย ซึ่งมาจากการยึดทรัพย์สินของรัสเซีย นับตั้งแต่สงครามในยูเครนปะทุ เมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2565 “คือการลักขโมย” และรัสเซีย “จะตอบโต้”.
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES