พลเอก ดร.สุภมนัส ภารพบ ประธานอนุกรรมการติดตามผลการดำเนินโครงการของกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ เป็นประธานในการประชุมคณะอนุกรรมการติดตามผลการดำเนินโครงการของกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 5/2567 โดยมี นายชนาสิน สิมะดำรงค์ รองผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ และคณะอนุกรรมการ เข้าร่วมด้วย ที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) หัวหมาก เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. ที่ผ่านมา

ภายหลังการประชุม พลเอก ดร.สุภมนัส ภารพบ ประธานอนุกรรมการติดตามผลการดำเนินโครงการของกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ เปิดเผยว่า ต้องเรียนให้ทราบเบื้องต้นก่อนว่า คณะอนุกรรมการติดตามผลการดำเนินโครงการของกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ประชุมกันมาแล้ว 16 ครั้ง ซึ่งผลการดำเนินงานเป็นที่น่าพอใจในระดับหนึ่ง เรื่องการติดตามการดำเนินโครงการของกองทุนฯ มีความสำคัญยิ่ง ซึ่ง กกท., กองทุนฯ รวมทั้งสมาคมกีฬาจังหวัด, สมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย และผู้เกี่ยวข้องที่ได้รับเงินไปต้องให้ความสำคัญ เพราะเป็นการนำเงินราชการไปใช้ ต้องมีการติดตาม และตรวจสอบ ตามภารกิจสำคัญของกองทุนฯ คือ มีหน้าที่ติดตาม ตรวจสอบผลการดำเนินโครงการ และให้ข้อเสนอแนะต่อคณะกรรมการบริหารกองทุนฯ ซึ่งเราได้ดำเนินการมาเป็นลำดับ

พลเอก ดร.สุภมนัส กล่าวอีกว่า สำหรับการประชุมวันนี้ มีเรื่องสำคัญที่หารือกับคณะอนุกรรมการคือ โครงการจ้างที่ปรึกษา เพื่อติดตามการดำเนินงานของสมาคมกีฬาจังหวัด 77 แห่ง และสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย 90 แห่ง ซึ่งจะแบ่งเป็น 5 ภาคตามที่ กกท. กำหนดคือ ที่ จ.เชียงใหม่, สงขลา, สุพรรณบุรี, นครราชสีมา และชลบุรี โดยให้เวลาคณะอนุกรรมการ และผู้ว่าจ้างคือ มหาวิทยาลัยที่ได้รับผิดชอบให้ประเมินผลโครงการ ทำงานร่วมกันจำนวน 5 ครั้ง ครั้งละ 2 วัน 1 คืน เพื่อไปทำความเข้าใจ ชี้แจงระเบียบการเบิกจ่าย และแนวทางปฏิบัติที่ถูกต้อง เพราะหลายสมาคม หลายส่วนที่ได้รับเงินอาจจะไม่เข้าใจระเบียบปฏิบัติของราชการ ในการเขียนรายงานโครงการที่เป็นเรื่องจำเป็น

“เพราะฉะนั้นสมาคมกีฬาจังหวัด และสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย จะต้องทำเอกสารโครงการ มีการประเมิน ติดตาม ผมเน้นเรื่องนี้เพื่อลดความเสี่ยงต่อการถูกสุ่มตรวจ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ถูกตรวจ ถ้าโครงการทำไม่ดี ล่อแหลม มีข้อน่าสงสัย หน่วยตรวจก็จะทำงาน แต่อย่างน้อยถ้ามีคณะอนุกรรมการไปติดตามก็ได้ให้คำแนะนำ ชี้แจงทำให้ถูกต้องตามระเบียบราชการ เพราะเป็นเงินราชการต้องทำให้ถูกต้อง”

พลเอก ดร.สุภมนัส กล่าวเพิ่มเติมว่า ส่วนวาระอื่นเป็นเรื่องการติดตามผลการเบิกจ่ายงบประมาณ ซึ่ง ณ วันที่ 14 มิถุนายน 2567 ได้รับรายงานจากฝ่ายคลังกองทุนฯ และกองทุนฯ ว่า เบิกจ่ายแล้ว 50.34 เปอร์เซ็นต์ จากเดือนที่แล้วเบิกจ่าย 29 เปอร์เซ็นต์ เดือนนี้ถือว่ามีพัฒนาไปค่อนข้างดี ก็เป็นที่น่าพอใจในระดับหนึ่งว่าเราได้เบิกจ่ายไปแล้ว ส่วนเรื่องสุดท้ายเป็นการวางแผนในการติดตาม เราได้ข้อมูลจากฝ่ายกีฬาเป็นเลิศ, ฝ่ายกีฬาอาชีพ, ฝ่ายกีฬามวย และฝ่ายกีฬาภูมิภาค กกท. ส่งมาให้คณะอนุกรรมการ ซึ่งกำลังทำแผนว่าจะไปติดตามร่วมกับสมาคมกีฬา, กกท. และหารือในการทำงานร่วมกับคณะอนุกรรมการด้านอื่นๆ ทั้งคณะอนุกรรมการพิจารณากลั่นกรองฯ และคณะอนุกรรมการด้านสวัสดิการกีฬา

“ถือว่าเป็นการทำงานร่วมกันในนามของคณะกรรมการบริหารกองทุนฯ ผมมองว่าเป็นเรื่องที่ดี ที่ได้บูรณาการให้มีความสัมพันธ์ที่ดีร่วมกัน ผมคิดว่าเรื่องนี้จะเป็นประโยชน์ต่อการติดตามผลการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการติดตามผลการดำเนินโครงการของกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ” พลเอก ดร.สุภมนัส กล่าวปิดท้าย