สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงบิชเคก ประเทศคีร์กีซสถาน เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. ว่า รัฐสภาคีร์กีซสถาน ระบุในแถลงการณ์ว่า สมาชิกสภานิติบัญญัติมีมติยกเลิกกฎหมายปี 2562 ซึ่งห้ามการวิจัย สำรวจ และพัฒนาแหล่งสำรองยูเรเนียม

ประเด็นดังกล่าวมีความอ่อนไหวเป็นพิเศษในคีร์กีซสถาน เนื่องจากประเทศยังคงมีสารพิษและกากกัมมันตรังสีหลงเหลืออยู่หลายล้านลูกบาศก์เมตรจากยุคโซเวียต และคำสั่งห้ามข้างต้น มีผลบังคับใช้หลังเกิดการประท้วงต่อต้านนิวเคลียร์

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลคีร์กีซสถานระบุว่า การยกเลิกคำสั่งมีความจำเป็นอย่างยิ่ง สำหรับการหาแหล่งรายได้อื่น พร้อมกับเน้นย้ำว่า ทางการจะเคารพบรรทัดฐานด้านสิ่งแวดล้อม

อนึ่ง เศรษฐกิจของคีร์กีซสถาน ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการระบาดของโรคโควิด-19 และประสบปัญหาทางอ้อมเมื่อไม่นานมานี้ จากการที่ชาติตะวันตกคว่ำบาตรรัสเซีย ซึ่งเป็นผลพวงจากปฏิบัติการทางทหารของรัฐบาลมอสโก ในยูเครน

ด้านนายอาคิลเบก ยาปารอฟ นายกรัฐมนตรีของคีร์กีซสถาน กล่าวว่า เขาต้องการนำพาประเทศไปสู่ “การพัฒนาระดับใหม่” ด้วยการกลับมาดำเนินการสกัดยูเรเนียมอีกครั้ง

ทั้งนี้ คีร์กีซสถานมีแหล่งเก็บสารพิษและกากกัมมันตรังสีทั้งหมด 92 แห่งในประเทศ ซึ่งรัฐบาลออกคำสั่งห้ามการสำรวจยูเรเนียม หลังเกิดการประท้วงต่อต้านนิวเคลียร์ ทางตอนเหนือของประเทศ เมื่อปี 2562.

เครดิตภาพ : AFP