เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีความคืบหน้าเหตุการณ์เรือของกลาง 3 ลำหาย ในคดีอาญาเลขที่ 102/2567 ลงวันที่ 20 มี.ค. 67 ในรายการ Dailynews Today ว่า ขณะนี้เป็นการดำเนินการติดตามค้นหาเรือที่หายไปอยู่ โดยมีการตั้งศูนย์อำนวยการตำรวจน้ำ ในส่วนการสืบสวนลูกเรือที่นำเรือออกไปนั้น ขณะนี้ชัดเจนแล้วในจำนวน 16 คน ได้ภาพและข้อมูล 14 คน ส่วนอีก 2 คนกำลังเร่งดำเนินการ เพื่อออกหมายจับให้ครบ 16 คน ในวันที่ 17 มิ.ย.นี้ เบื้องต้นจากการจับกุมลูกเรือ 16 คนในครั้งแรกนั้น ลูกเรือให้การปฏิเสธทั้งหมด คาดว่าได้ลงเรือและหายไปพร้อมกับเรือแล้ว

‘ตร.’ จ่อเรียก ‘ลูกเรือ’ ให้ปากคำยกแก๊ง สงสัยเอี่ยวเหตุเรือน้ำมันเถื่อนหาย

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ในส่วนของพิกัดเรือที่คาดว่าจะอยู่ในน่านน้ำของประเทศเพื่อนบ้านนั้น ยังไม่สามารถยืนยันทางวิทยาศาสตร์ได้ แต่ในทางลับได้สืบสวนประกอบกับที่มีเหตุการณ์บางอย่างทำให้เห็นว่า เรือแล่นไปทางเกาะกูด 3 ลำ มุ่งหน้าไปยังประเทศกัมพูชา จึงทำให้ชุดทำงานตั้งประเด็นได้ว่าเรือ 3 ลำน่าจะไปที่น่านน้ำของเพื่อนบ้าน แต่ยังไม่ยืนยัน 100% และหากว่าเรืออยู่ในน่านน้ำของเพื่อนบ้านจริง ก็สามารถประสานกับทางเพื่อนบ้านนำเรือกลับคืนมาได้

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวอีกว่า ในส่วนของการดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่บกพร่องในหน้าที่ ขณะนี้ ผบช.ก. เล็งเห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ไม่สมควรเกิดขึ้น และหากพบความผิดของเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะดำเนินการทางวินัยและอาญาให้เต็มที่ และในส่วนคำสั่งเด้งเจ้าหน้าที่ กก.5 บก.รน. เมื่อวาน (13 มิ.ย.) มีการนำเจ้าหน้าที่ บก.ปปป.ไปด้วย และทาง บก.ปปป. ได้พิจารณาเบื้องต้นแล้วพบว่าเข้าข่ายความผิด มาตรา 157 และมีการตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงเรื่องนี้คู่ขนานไปกับตำรวจน้ำ เพื่อดำเนินคดีให้โปร่งใส หากพบว่ามีการเอื้อกันทำให้เรือหายไปก็จะมีข้อหา 147 และข้อหาอื่นตามมา โดยให้ดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงมีกำหนดระยะเวลาไม่เกิน 7 วัน

ส่วนก่อนหน้านี้ทางกรมศุลกากร มีการเข้ามาตรวจของกลางไปแล้ว 2 ครั้งในเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา หลังจากนี้จะมีการประสานงานกับกรมศุลกากร และจะนำภาพประกอบส่งให้แก่สื่อมวลชนอีกครั้ง

ส่วนการป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาเช่นนี้ในอนาคต พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า เมื่อวานนี้ได้ประชุมสั่งการให้ทางตำรวจน้ำ ปรับวิธีการในการนำของกลางที่จับมา นำไปไว้ที่แม่น้ำเจ้าพระยา เพราะคลื่นลมไม่แรงเหมือนในทะเล และมีการแนะว่าควรนำไปเก็บที่กองบังคับการตำรวจน้ำด้วย ขณะนี้แนวทางการสืบสวนยังไม่ยืนยันว่ามีความเกี่ยวข้องกับ เสี่ยโจ้ ปัตตานี แต่ได้ให้น้ำหนักไปทางนี้ไว้ก่อน

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวด้วยว่า ส่วนเรื่องนี้จะเชื่อมโยงถึงเสี่ยโจ้หรือไม่นั้น ขอเวลาประมาณสัปดาห์หน้าจะมีความชัดเจนขึ้น  ส่วนเรื่องที่มีกระแสว่า เสี่ยโจ้ได้หลบหนีออกไปนอกประเทศแล้วนั้น ยอมรับว่าจากข้อมูลทางการสืบสวนพบว่าตอนนี้เสี่ยโจ้พำนักอยู่ที่ประเทศกัมพูชา และการที่เรือหายจะเกี่ยวข้องกับเสี่ยโจ้หรือไม่นั้น ใครเป็นเจ้าของหรือทำธุรกิจตรงนี้ ก็ไม่มีคนอื่นที่จะดำเนินการ

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ส่วนกรณีที่มีภาพวงจรปิดรถกระบะคันหนึ่ง ขับเข้าไปในพื้นที่บริเวณสะพานถ้าเทียบเรือ เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน เวลา 17.00 น. ขอขี้แจงว่า ภาพที่ปรากฏผ่านสื่อมวลชนนั้น จากการตรวจสอบพบว่า รถกระบะคันดังกล่าวเป็นรถที่ใช้ในการขนน้ำ สำหรับภารกิจการฝึกทบทวนหมวดเรือ ศรชล. ภาค 1 โดยมีการฝึกระหว่างวันที่ 10-13 มิถุนายน ซึ่งไม่ได้มีการเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์เรือของกลางหายออกไปจากท่าเทียบเรือ