บริษัท ออโต้อัลลายแอนซ์ ประเทศไทย จำกัด (เอเอที) ลงทุนสร้างโรงงานออโต้อัลลายแอนซ์ผู้ผลิตรถยนต์มาสด้าและรถปิกอัพฟอร์ด ร่วมฉลองการผลิตครบ 4 ล้านคัน หลังจากที่ลงทุนอย่างต่อเนื่องมาตลอด 29 ปี ปัจจุบันรวมมูลค่าเงินลงทุนกว่า 80,000 ล้านบาท มีกำลังการผลิตสูงถึง 270,000 คันต่อปี โดยเฉพาะการผลิตรถปิกอัพขนาด 1 ตัน ซึ่งเป็นโปรดักส์แชมเปี้ยน ส่งผลทำให้ประเทศไทยกลายเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์และส่งออกแหล่งสำคัญของโลก สะท้อนถึงความเชื่อมั่นต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศไทย ขณะเดียวกันก็สร้างรายได้และเงินลงทุนมหาศาลเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจของประเทศ

โรงงานร่วมทุนฟอร์ดและมาสด้า ฉลองหมุดหมายสำคัญในประวัติศาสตร์การดำเนินธุรกิจในประเทศไทย จากการผลิตรถยนต์ครบ 4 ล้านคันในวันนี้  โดยรถคันที่ 4 ล้าน ที่ออกจากสายการผลิตในจังหวัดระยอง เป็นรถฟอร์ด เอเวอเรสต์ สีขาว

“โรงงานเอเอทีนับว่ามีส่วนสำคัญในการสร้างมาตรฐานที่ดีเยี่ยมและขับเคลื่อนการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ด้วยการยึดมั่นในคุณภาพการผลิต ดำเนินงานตามมาตรฐานระดับโลกของบริษัทแม่ทั้ง 2 แห่ง และมีระเบียบปฏิบัติในระดับสากลตลอด 29 ปีของการดำเนินธุรกิจ เราภูมิใจที่ได้สร้างงาน และพัฒนาทักษะความรู้ความสามารถของพนักงานของเราตลอดมา”

นายเคนอิจิโร ซารุวาตาริ ประธานบริษัทและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทออโต้อัลลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว “การผลิตรถยนต์ฟอร์ดและมาสด้าครบ 4 ล้านคันในปีนี้ สะท้อนถึงความมุ่งมั่น ทุ่มเท และศักยภาพของทีมงานทุกคนในการส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่ดีเยี่ยมจากไทยไปยังตลาดรถยนต์กว่า 171 ประเทศทั่วโลก”

นางเคย์ ฮาร์ท ประธานกลุ่มตลาดนานาชาติ ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี กล่าวว่า “ในฐานะศูนย์กลางการผลิตหลักสำหรับฟอร์ด เรนเจอร์ ในภูมิภาคนี้ และเป็นโรงงานเพียงแห่งเดียวในโลกที่ผลิตรถฟอร์ด เอเวอเรสต์ การผลิตรถยนต์ครบ 4 ล้านคันในวันนี้ตอกย้ำถึงความสำคัญของทีมงานเอเอที ในการสร้างความสำเร็จให้กับธุรกิจของฟอร์ดในกลุ่มตลาดนานาชาติและทั่วโลก และยังสะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จที่เกิดจากความมุ่งมั่นในการพัฒนาและการผลิตรถที่มีคุณภาพ”

ปัจจุบันโรงงาน เอเอที มีกำลังการผลิตสูงสุด 270,000 คันต่อปี โดยผลิตเพื่อจำหน่ายทั้งในประเทศและส่งออกไปกว่า 171 ประเทศทั่วโลก โดยมีสัดส่วนการส่งออกที่ร้อยละ 65 รถรุ่นที่ผลิตในปัจจุบัน ได้แก่ ฟอร์ด เรนเจอร์ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ มาสด้า2 มาสด้า3 มาสด้า CX-3 มาสด้า CX-30  โดยตลาดหลักที่มียอดส่งออกมากที่สุดคือ ประเทศออสเตรเลีย

นายฮิโรโนริ ทานากะ กรรมการผู้จัดการประจำภูมิภาคอาเซียน มาสด้า กล่าวว่า “มาสด้าขอใช้โอกาสในการร่วมเฉลิมฉลองกับความสำเร็จของเอเอทีครั้งนี้ ให้มั่นใจว่าเราจะเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ร่วมกันต่อไป ทั้งนี้เพื่อให้กระบวนการผลิตรถยนต์ในประเทศไทยครบวงจรมากที่สุด รวมถึงการส่งเสริมให้ธุรกิจของมาสด้าให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งทั้งภายในประเทศและการส่งออกไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก

มาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น  ยังได้ก่อตั้ง บริษัท มาสด้า พาวเวอร์เทรน เมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด หรือ MPMT เพื่อทำการผลิตชุดเกียร์อัตโนมัติแห่งแรกขึ้นในประเทศไทยและเป็นครั้งแรกที่สร้างโรงงานผลิตเกียร์อัตโนมัตินอกประเทศญี่ปุ่น โดยมีกำลังการผลิต 400,000 ยูนิตต่อปี และผลิตเครื่องยนต์สกายแอคทีฟ จำนวน 100,000 เครื่องต่อปี เพื่อส่งออกไปทั่วโลกและป้อนให้กับโรงงานเอเอที ด้วยศักยภาพและความพร้อมของเอเอทีและเอ็มพีเอ็มทีในการควบคุมคุณภาพของการผลิต รวมถึงความพร้อมของผู้ผลิตชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งระบบ ทั้งนี้ มาสด้ายังคงเชื่อมั่นในศักยภาพของประเทศไทย โดยมาสด้าวางแผนเพิ่มเงินลงทุนในโรงงานทั้งสองแห่งเพิ่มเติมในอนาคต เพื่อส่งเสริมให้ประเทศไทยกลายเป็นฐานการผลิตและส่งออกที่สำคัญในภูมิภาคนี้ รวมถึงการเตรียมความพร้อมในการผลิตรถยนต์รุ่นใหม่และเทคโนโลยีแห่งอนาคต