1.คดียุบพรรคก้าวไกล กรณีล้มล้างการปกครอง ถึง แม้จะมีรายงานว่า ศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งให้ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในฐานะผู้ร้องยื่นบัญชีระบุพยานหลักฐานต่อศาลรัฐธรรมนูญภายในวันที่ 17 มิ.ย 2567 แต่ศาลรัฐธรรมนูญ จะพิจารณาคดีนี้ต่อทันที ในวันที่ 18 มิ.ย.นี้  2. คดีที่ “เสี่ยนิด” เศรษฐา ทวีสิน  นายกรัฐมนตรี กรณีแต่งตั้ง พิชิต ชื่นบาน อดีตรมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งให้คู่กรณี คือ “เศรษฐา – 40 สว.” ยื่นบัญชีระบุพยาน หลักฐาน ต่อศาลรัฐธรรมนูญภายในวันที่ 17 มิ.ย 67 และศาลรัฐธรรมนูญนัดพิจารณาต่อในวันที่ 18 มิ.ย. 2567 และ 3.คดีกฎหมายเลือกตั้ง สว.อาจเข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญ ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งวุฒิสภา พ.ศ. 2561 มาตรา 36 มาตรา 40 มาตรา 41 และมาตรา 42 ซึ่งเกี่ยวข้องกับวิธีการเลือกสมาชิกวุฒิสภา ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 107 หรือไม่ โดยศาลรัฐธรรมนูญ กำหนดฟังคำวินิจฉัย วันที่ 18 มิ.ย.เช่นเดียวกัน

และ ไฮไลท์สำคัญ ในวันที่ 18 มิ.ย.67 ที่สำนักงานอัยการสูงสุด   กรณีที่อัยการสูงสุดสั่งฟ้อง“นายใหญ่” ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในข้อหาผิดประมวลกฎหมายอาญา คดี ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ กรณีให้สัมภาษณ์สื่อที่เกาหลีใต้ เมื่อเดือน พ.ค.58 ซึ่ง “นายใหญ่” ประกาศอย่างฮึกเหิม เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. 2567 ขณะไปเป็นประธานงานบวชที่ จ.ปทุมธานี ว่า  “มาแน่แน่อน …พร้อมต่อสู้คดี …ไม่หลบหนี” พร้อมเปิดหน้าชน กับ “คนในป่า”  ซึ่งจะตีความเป็นเป็นใครไม่ได้ นอกจาก “เจ้าป่า” ที่ชื่อ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ  ซึ่งเป็นหนึ่งในพรรคร่วมรัฐบาล 

นอกจากนี้ “นายใหญ่” ยังจงใจพูดถึง “ 2 ลุง ขั้วอำนาจเก่า” ที่ยัดเยียดความผิดคดี มาตรา 112 ระบุว่า “คดีนี้จะเป็นตัวอย่างให้คนเห็นว่าตอนปฏิวัติยัดข้อหาอย่างไร คดีนี้เป็นคดีที่ไม่มีมูลเลยแม้แต่นิดเดียว และพยายามที่จะนำไปตีความเพื่อให้มันมีมูล และเมื่อคนหนึ่งสั่งฟ้องคนอื่นก็ไม่กล้าที่จะสั่งไม่ฟ้อง เลยสั่งฟ้อง ซึ่งไม่ใช่หลักกฎหมาย จริงๆแล้วไม่มีอะไร คดีแทบจะไม่มีมูล แบบนี้เขาเรียกว่าเป็นผลไม้ของต้นไม้ที่เป็นพิษ คือการทำคดีแต่ละข้อกล่าวหาตั้งแต่ต้น ที่มีการข่มขู่ ตั้งแต่ในชั้นพนักงานสอบสวนโดยผู้บังคับบัญชา คดีไม่ควรเป็นคดี”

ทำให้ นายตระกูล วินิจนัยภาค อดีตอัยการสูงสุด โพสต์เฟซบุ๊กสวนกลับทันทีว่า ขอยืนยันด้วยเกียรติของลูกผู้ชายว่า ในฐานะเป็น  อสส. ในขณะนั้น ซึ่งเป็นพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบคดีอาญานอกราชอาณาจักรตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 20 ไม่เคยมีใครข่มขู่ โน้มน้าว ชักจูง ให้ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบในการสอบสวนครับ”

ซึ่งทั้ง 3 คดีสำคัญทางการเมือง “ยุบก้าวไกล – คดีเศรษฐา – คดีทักษิณ”  ที่ไหลมาบรรจบกัน ถือเป็น “จิกซอว์” สำคัญที่จะทำให้ สมการทางการเมืองเปลี่ยนแปลงทันที  เพราะถ้าพรรคก้าวไกล โดนยุบ ก็จะมีการช็อปปิ้ง สส.เข้ามาเสริมในพรรครัฐบาลบางพรรค เพื่อต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรี

ถ้า “นายใหญ่” เจอชนัก มาตรา 112 ปักหลัง  ก็จะเป็นการเบรกการเดินเกมทางการเมืองของพรรคเพื่อไทยทันที  หรือถ้า “เศรษฐา” เกิดอุบัติเหตุทางการเมือง  คำถาม “อุ๊งอิ๊ง” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมเข้าสู่  คิลลิ่ง โซน” ทุ่งสังหาร  ในตำแหน่ง  “นายกรัฐมนตรี”แล้วหรือยัง?

เกมชิงขั้วอำนาจทางการเมืองก็จะเกิดขึ้นอีกครั้ง เพราะ “เจ้าป่า” ไม่ยอมอยู่เฉยๆ แน่.