เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. ร.ต.อ.เฉลิมพล แต้มรุ่งเรือง รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองนครปฐม ได้รับแจ้งจากโรงพยาบาลบ้านโป่ง ว่า มีหญิงสาวถูกราดน้ำมันแล้วจุดไฟเผาได้รับบาดเจ็บจากนครปฐมส่งตัวมารักษา จึงได้เดินทางไปตรวจสอบที่โรงพยาบาล ทราบชื่อผู้บาดเจ็บคือ นางพรทิพย์ อายุ 36 ปี มีความพิการที่ขาทั้งสองข้าง ได้รับบาดเจ็บสาหัสที่บริเวณแขน ศีรษะและทั่วทั้งตัวผิวหนังลอก เนื้อหลุด แพทย์เร่งให้การช่วยเหลือ จากนั้นได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุบริเวณหน้าบ้านหลังหนึ่งใน ต.สวนป่าน อ.เมืองนครปฐม พบร่องรอยจากการถูกเผาไหม้ และพบขวดบรรจุน้ำมันมีรอยไหม้ดำถูกวางทิ้งไว้ เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน และบริเวณใกล้กันที่กอไผ่ยังพบเปลญวนผ้าสีดำผูกไว้ รองเท้าของผู้บาดเจ็บ 1 คู่วางอยู่ และยังมีไม้เท้าค้ำยันสำหรับผู้พิการวางพิงอยู่ที่กอไผ่ด้วย

สอบถามนายจักรกฤษณ์ อายุ 36 ปี ญาติผู้บาดเจ็บ เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุเห็นนายพัน อายุ 40 ปี สามีของนางพรทิพย์ ได้เดินปรี่เข้ามา ขณะนั้นนางพรทิพย์กำลังนอนเล่นอยู่ที่เปลญวน นางพรทิพย์เป็นหญิงพิการขาทั้งสองข้างใช้การไม่ได้ ต้องใช้ไม้เท้าค้ำยันตลอดเวลา ขณะนั้นนายพันได้เดินเข้ามาต่อว่านางพรทิพย์ เนื่องจากทั้งคู่มีปัญหาระหองระแหงกันมานานและรักๆ เลิกๆ ทราบว่าเมื่อคืนที่ผ่านมา นางพรทิพย์ได้มีการแจ้งความไว้ที่ สภ.บ้านโป่ง จึงทำให้ฝ่ายชายโกรธ

จากนั้นได้มีปากเสียงกันจนฝ่ายหญิงได้ลุกออกจากเปลที่นอนแล้วพยายามลุกเดินหนีในท่าทางที่เดินไม่สะดวก แต่ฝ่ายชายกลับเดินตามพร้อมกับใช้ขวดน้ำมันที่เตรียมมาราดเข้าที่ศีรษะของนางพรทิพย์ก่อนจุดไฟเผา ขณะนั้นไฟลุกไหม้ท่วมร่างของนางพรทิพย์ ส่วนนายพันหลังก่อเหตุได้โยนขวดน้ำมันทิ้งแล้วเดินหนีหายไป ซึ่งบ้านของนายพันอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุเพียง 600 เมตรเท่านั้น

ชาวบ้านและญาติที่นั่งอยู่ในบริเวณดังกล่าว 6 คน เห็นเข้าจึงรีบอุ้มนางพรทิพย์ที่ร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวดลงไปในคลองเพื่อช่วยดับไฟ เมื่อดับได้จึงอุ้มขึ้นมาบนฝั่งและโทรฯเรียกหน่วยกู้ชีพมารับตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลทันที

ภายหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกติดตามตัวนายพันที่บ้านพักแต่ไม่พบตัว ทราบจากชาวบ้านว่าขี่รถ จยย.หลบหนีหายไป ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดี ส่วนสาเหตุเบื้องต้นสันนิษฐานว่าเกิดความระหองระแหงกันภายในครอบครัว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับนายพัน ในข้อหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ โดยจะเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย