เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. เปิดเผยว่า กองบังคับการตำรวจน้ำ (บก.รน.) รายงานว่าเรือบรรทุกน้ำมันของกลางขนาดใหญ่จำนวน 3 ลำ บรรจุน้ำมันรวมกว่า 3 แสนลิตร หายไปจากท่าเทียบเรือตำรวจน้ำสัตหีบ จ.ชลบุรี เบื้องต้นได้สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. ลงพื้นที่ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยด่วน พร้อมสั่ง บก.รน. ตั้งกรรมการสอบสวนให้รายงานผลโดยเร็วที่สุด

ด้าน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ในวันที่ 13 มิ.ย.นี้ ช่วงบ่ายจะลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุ แต่เบื้องต้นทราบว่าเรือทั้ง 5 ลำถูกตำรวจ กก.2 บก.ปอศ. จับกุมเมื่อวันที่ 17 มี.ค.ที่ผ่านมา ก่อนนำมาจอดไว้ท่าเทียบเรือตำรวจน้ำ ซึ่งตำรวจที่เข้าเวรยังมองเห็นเรือดังกล่าวเปิดไฟเมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. ของวันที่ 11 มิ.ย. กระทั่งช่วงเวลา 22.00 น. เรือทั้งหมดได้ดับไฟ จนช่วงเช้าถึงทราบว่าเรือ 3 ลำก็หายไป อย่างไรก็ตาม คดีนี้ต้องปิดให้ได้เร็วที่สุด โดยได้ประสานการค้นหาเรือและลูกเรือทั้งหมดทั้งทางทะเลและทางอากาศ เนื่องจากของกลางหายเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นขณะอยู่ในความควบคุมของตำรวจ

ตำรวจน้ำวุ่น! ของกลางเรือบรรทุกน้ำมันเถื่อน 3 ลำ จอดในทะเลหนีหายจากอ่าวสัตหีบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว สืบเนื่องจากตั้งแต่วันที่ 9 มิ.ย. มีพายุเข้าในพื้นที่ อ.สัตหีบ ทำให้สะพานตำรวจน้ำไม่สามารถรองรับน้ำหนักเรือของกลางได้ จึงให้เรือของกลางรวม 5 ลำ ไปจอดทิ้งสมอห่างท่าเทียบเรือตำรวจน้ำ 100 เมตร แต่ปรากฏว่าช่วงเช้าตรู่วันที่ 12 มิ.ย. เรือ เจ.พี. พร้อมของกลาง น้ำมันเถื่อนประมาณ 80,000 ลิตร พร้อมลูกเรือ จำนวน 7 คน, เรือซีฮอต พร้อมน้ำมันเถื่อนประมาณ 150,000 ลิตร พร้อมลูกเรือ จำนวน 6 คน และเรือดาวรุ่ง พร้อมน้ำมันเถื่อนประมาณ 100,000 ลิตร พร้อมลูกเรือจำนวน 5 คน หายไปจากจุดทิ้งสมอและปัจจุบันยังค้นหาไม่พบ โดยเรือทั้ง 3 ลำเป็นของเครือข่ายของ “โจ้ น้ำมันเถื่อน” หรือ “โจ้ ปัตตานี” บิ๊กขบวนการค้าน้ำมันเถื่อนรายใหญ่ภาคใต้หลบหนีหมายจับคดีน้ำมันเถื่อนหลายคดีอยู่ในต่างประเทศ