จากกรณี น.ส.เอ (นามสมมุติ) นายบี (นามสมมุติ) และ นายซี (นามสมมุติ) ผู้เสียหายที่ถูกพระเกจิชื่อดังในพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์ หลอกให้มีเพศสัมพันธ์ลักษณะเซ็กส์หมู่ชาย-หญิง อ้างว่าเป็นการถ่ายทอดพลัง ภายหลังผู้เสียหายทนไม่ไหว ไปร้องเรียนสายไหมต้องรอดให้ช่วยเหลือ ทำให้ฝ่ายพระดังกล่าวยอมสึกจากความเป็นพระ โดยทั้งหมดได้เข้ามาพูดคุยในรายการ “โหนกระแส” โดยพิธีกร “หนุ่มกรรชัย กำเหนิดพลอย” ตามที่ได้เสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในเพจเฟซบุ๊ก สำนักสงฆ์ที่พักของอดีตพระเกจิในข่าว ได้โพสต์ข้อความ ระบุว่า “….ในขณะนี้ ขอยุติการเป็นที่พักสงฆ์นับจากนี้เป็นต้นไป และทางท่านพระอาจารย์ได้ลาสิกขา ต่อหน้าพระเถระเพื่อไม่เป็นภาระแก่คณะสงฆ์ และไม่ให้เกิดความวุ่นวาย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงแจ้งมายังคณะสานุศิษย์และผู้ศรัทธาทั้งหลายโปรดทราบทั่วกัน #เขาว่าเราไม่ดีก็สึกเนาะ ต่อจากนี้ที่นี่คือ สำนักXXX และจะดำเนินการสานฝันตามรอยคำสอนของพ่อแม่ครูบาอาจารย์ต่อไป ขอขอบคุณคณะศรัทธา สานุศิษย์ทุกท่านที่ได้ร่วมกันสานฝันมาตลอด…” ทั้งนี้หลังจากข้อความดังกล่าวปรากฏออกไปปรากฏว่า มีเหล่าลูกศิษย์และผู้ที่ยังเลื่อมใสในตัวอดีตพระเกจิดัง มาโพสต์ให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ ดร.ประยุทธ ประเทศเสนา รองประธานมูลนิธกองทัพธรรม หรือ “มหาหมี” และ นายเอกภพ เหลือประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ได้แสดงความเห็นถึงเรื่องดังกล่าวผ่านทางรายการ “โหนกระแส” ทำนองว่า พระรูปนี้กล่อมลูกศิษย์ว่าอย่าไปยึดติดร่างกาย หรือยึดติดกับการมีเพศสัมพันธ์ เป็นการจับแพะชนแกะ ไม่มีความรู้ในทางศาสนา แล้วยังบิดเบือนคำสอนพุทธศาสนาด้วย ถือเป็นเรื่องอันตรายมาก เพราะหลักพุทธศาสนา พระพุทธเจ้าสอนไว้ว่า ต้องไม่เสพกาม ต้องอยู่โดยลำพัง อันนี้ถือเป็นหลักอยู่แล้ว เรื่องนี้ไม่น่าจะจบแค่สึก เพราะต้องไปดูว่ากระทำผิดฐานความผิดอะไรบ้าง ต้องมีการสอบสวนและแจ้งความกับตำรวจ

ผ่านมา จะมีการยกเลิกโทษทางอาญาพระเสพเมถุนไปตั้งแต่สมัย ร.6 ก็น่าจะมีการพิจารณารื้อฟื้นใหม่ ที่ผ่านมาเราเห็นการจับกุมพระกระทำผิดคดีทางเพศกับเด็กและเยาวชน แต่กรณีการล่อลวงในลักษณะใดก็ตาม มีความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเรา เพราะหลอกให้เชื่อในสิ่งที่เขาพูด ยกหลักคำสอน นำไปสู่การร่วมประเวณี ผู้เสียหายไม่มีเจตนากระทำอย่างนั้น และหากใครมาร่วมด้วย ก็จะมีความผิดทางอาญาอีก นอกจากนี้ยังอยากให้ทางสำนักพุทธเพชรบูรณ์ ลงไปตรวจสอบดูว่า สำนักสงฆ์แห่งนี้ตั้งมาโดยชอบหรือไม่ เงินบริจาค-เงินทำวัตถุมงคล ได้มาโดยชอบหรือไม่

“….เหยื่อผู้เสียหายกว่าจะมาออกรายการ ยังต้องไปพบจิตแพทย์ ถึงจะมานั่งพูดคุยกันแบบนี้ได้ สิ่งที่น้องเจอหนักมาก พระรูปนี้มันเอาผู้ชายอีกหลายคน มากระทำกับเขาพร้อม ๆ กันเป็นเรื่องเลวร้ายมาก ลองคิดว่าถ้าเป็นลูกคุณไปโดนบ้างจะทำอย่างไร…” นายเอกภพ กล่าวทิ้งท้าย

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ระหว่างดำเนินรายการ “หนุ่ม กรรชัย” ในแจ้งทีมงานในเฟซบุ๊ก “โหนกระแส” ทำการ “บล็อก” บุคคลที่เป็น “แฟนตัวยง” ไปถึง 2 คนด้วยกัน เนื่องบุคคลดังกล่าว จากแสดงความเห็นเชิงซ้ำเติมผู้เสียหาย.

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก รายการโหนกระแส