จากกรณีที่ตำรวจ กก.สส.บก.น.1 จับกุม นายนรเศรษฐ์ ไทยเศรษฐ์ ญาติของนายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมพวกคือ นายกิจจา (สงวนนามสกุล) น.ส.วาลิส (สงวนนามสกุล) และ น.ส.อัญชลีพร (สงวนนามสกุล) ขณะอยู่ในโรงแรมแห่งหนึ่งย่านบางกะปิ กทม. พร้อมยึดของกลางยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาไอซ์) 6 ถุง (5.4 กรัม) อาวุธปืน 11 มม. 1 กระบอก และกระสุนปืน 6 นัด ก่อนควบคุมตัวมาสอบปากคำที่ สน.มักกะสัน เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. 67 ที่ผ่านมาตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
สมควร! ‘ชาดา ไทยเศรษฐ์’ ลั่นหลานตัวแสบ-เกเร ให้ดำเนินคดีเต็มที่
เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. ที่ สน.มักกะสัน มีรายงานว่า ขณะนี้มี การตรวจปัสสาวะจากผู้ต้องหาทั้ง 4 รายแล้ว พบว่าปัสสาวะเป็นสีม่วงทั้ง 4 ราย จึงแจ้งข้อหาร่วมกันครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาไอซ์) โดยไม่ได้รับอนุญาต และแจ้งข้อหาเพิ่มนายนรเศรษฐ์ ข้อหา มีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืน ไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควรฯ
ทั้งนี้ในช่วงพิมพ์ลายนิ้วมือ น.ส.วาลิส 1 ในผู้ต้องหาได้หมดสติไประหว่างนำตัวมาพิมพ์ลายนิ้วมือเนื่องด้วยมีอาการเครียดเพราะมีคดีลักทรัพย์กลางคืนติดตัว นอกจากนี้นายกิจจา 1 ในผู้ต้องหาพบว่ามีประวัติเสพยาเสพติดอีกด้วย หลังจากนี้หากทำสำนวนเสร็จ จะคุมตัวไปฝากขังที่ศาลอาญาฯ ต่อไป
ขณะที่นายเกริกเกียรติ กิ่งแก้ว ทนายความได้เดินทางมาติดตามคดีและเข้าพบผู้ต้องหา เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังเป็นเรื่องในสำนวนคดี หากมีอะไรที่มากกว่านั้นต้องรอทางพนักงานสอบสวนทำสำนวนให้แล้วเสร็จก่อน ในส่วนของผู้ต้องหามีความเครียดหรือไม่นั้น ตนไม่แน่ใจเพราะเพิ่งเดินทางมา ตนไม่มีความกังวลในเรื่องคดี ให้ว่ากันไปตามข้อกล่าวหา ซึ่งจะต้องรอดูว่าทางพนักงานสอบสวนจะตั้งข้อหาเพิ่มเติมอีกหรือไม่ ตนไม่ทราบในเรื่องของความสัมพันธ์ของตัวนายนรเศรษฐ์ และ รมต.ชาดา ไทยเศรษฐ์ ตนรู้เพียงแค่สำนวนคดีเท่านั้น
นายเกริกเกียรติ ยังกล่าวด้วยว่า คดีนี้ไม่มีอะไรที่จะไปกระทบต่อ นายชาดา เพราะไม่มีความเกี่ยวข้องกัน ขณะนี้ตนได้เตรียมหลักทรัพย์ในการประกันตัวแก่ผู้ต้องหาแล้ว แต่จะจำนวนเท่าไรนั้นก็ต้องรอดูพนักงานสอบสวนว่าจะมีการตั้งข้อหาเพิ่มเติมหรือไม่ และต้องรอยื่นตามอัตราที่ศาลเรียกอีกด้วย ทั้งนี้เรื่องการปฏิเสธจะเป็นเรื่องยากหรือไม่นั้น ตนคิดว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ก็ให้การไปตามข้อเท็จจริง นอกจากนี้ตนได้สอบถามผู้ต้องหาทราบเพียงว่าในคืนที่เกิดเหตุผู้ต้องหานัดเจอกันเพื่อพูดคุยธุระ และในส่วนของผู้ต้องหาหญิงอีก 2 รายนั้น ตนยืนยันว่าไม่ใช่เด็กเอ็น.
