นายจิรุตม์ วิศาลจิตร  อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยว่า กำลังพัฒนาระบบให้บริการด้านใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคล (ใบขับขี่) เพิ่มความสะดวกรวดเร็วให้ประชาชน โดยสามารถต่อใบขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคลผ่านระบบออนไลน์  โดยไม่ต้องเสียเวลาเดินทางมาต่อใบขับขี่ที่กรมฯ และสำนักงานพื้นที่ต่างๆ  แม้ว่าปัจจุบันจะลดขั้นตอนด้วยการเปิดให้จองคิวล่วงหน้าผ่านเว็บหรือแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue สามารถเลือกวันและเวลาที่สะดวกได้ตามต้องการ ประหยัดเวลามากกว่าการวอล์กอิน (Walk-in) แต่ยังต้องมาต่อใบขับขี่ด้วยตนเอง  

เนื่องจากต้องอัปเดตข้อมูลต่างๆ อาทิ  การตรวจสุขภาพ ที่ต้องมีใบรับรองแพทย์  และต้องทดสอบสมรรถภาพร่างกายเพื่อประเมินสมรรถภาพตามหัวข้อ อาทิ การทดสอบการมองเห็นสี การทดสอบสายตาทางลึก การทดสอบสายตาทางกว้าง การทดสอบปฏิกิริยาเท้า ซึ่งในการต่อใบขับขี่ผ่านระบบออนไลน์ กรมฯ ต้องเชื่อมโยงระบบฐานข้อมูลกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และกรมการปกครอง เป็นต้น ซึ่งขณะนี้ สธ. ได้นำร่องระบบเทเลเมดิซีน (Telemedicine) คือ การให้บริการด้านสาธารณสุขกับประชาชนทางออนไลน์  หรือการพบแพทย์ทางออนไลน์ โดยกรมฯ สามารถใช้ข้อมูลหรือดึงฐานข้อมูลด้านสาธารณสุขในระบบแทนการแสดงตัวตนได้ นอกจากเพิ่มความสะดวกให้กับประชาชน ยังลดภาระงานของกรมฯ และเจ้าหน้าที่ด้วย

เบื้องต้นจะนำร่องกับใบขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคลก่อน และต้องใช้ระยะเวลาในการพัฒนาระบบ มั่นใจว่าในอนาคตจะให้บริการประชาชนต่อใบขับขี่ผ่านระบบออนไลน์ได้แน่นอน ทั้งนี้ปัจจุบันการขอมีใบขับขี่รถส่วนบุคคลครั้งแรกต้องมีอายุ 18 ปีขึ้นไป  โดยมีอายุการใช้งาน 2 ปี  จากนั้นต้องต่อใบขับขี่รอบแรกจาก 2 ปี เป็น 5 ปี และต่ออายุทุก 5 ปี