ทัพเหยี่ยว “สโลวาเกีย” ทีมขาประจำในช่วงหลังของศึกยูโร ขุนพลสโลวัก เข้าร่วมรอบสุดท้ายครั้งแรกในศึกยูโร 2016 ที่ฝรั่งเศส พวกเขาสร้างเซอร์ไพร้ส์ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ผ่านเข้าถึงรอบ 16 ทีมสุดท้าย และหลังจากนั้นพวกเขาไม่พลาดเลยที่จะตบเท้าเข้าสู่สังเวียนแห่งยุโรป ซึ่งครั้งนี้พวกเขาต้องการแก้มือและเรียกศรัทธาแฟน ๆ จากการชวดโควตาฟุตบอลโลก 2022 ที่ผ่านมา

ผลงานยูโร 2016: รอบ 16 ทีมสุดท้าย แพ้ ทีมชาติเยอรมนี 0-3
ยูโร 2020 : รอบแบ่งกลุ่ม ตกรอบจากการเป็นอันดับที่ 3 ของกลุ่ม
รอบคัดเลือกยูโร 2024 การชนะ 7 เสมอ 1 แพ้ 2 เป็นผลงานที่ยอดเยี่ยม ส่งทีมสโลวักเข้ารอบสุดท้ายในฐานะรองแชมป์ กลุ่มเจ

ผู้จัดการทีม
“ฟรานเชสโก คาลโซนา”

เฮดโค้ชชาวอิตาเลียนวัย 55 ปี ที่ปัจจุบันรับงานคุมทีมสโมสรนาโปลี อดีตต้นสังกัดที่เคยทำหน้าที่ผู้ช่วยโค้ช ควบคู่กับการกุมบังเหียนทีมสโลวัก ซึ่งเป็นงานแรกในฐานะเฮดโค้ช ผลงานการพาทัพสโลวักผ่านเข้ารอบสุดท้ายศึกยูโร 2024 ถือเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมและจับต้องได้ โดย 17 นัด ในฐานะกุนซือทัพเหยี่ยว คาลโซนา เน้นใช้งานนักเตะมากประสบการณ์เป็นหลัก ซึ่งยังทำผลงานได้ดีในระบบการเล่น 4-3-3 อาจไม่ได้โดดเด่นในการทำประตูมากนัก แต่ทีมสโลวักในมือของเขา ก็มีแดนกลางและแดนหลังที่มั่นคงและไว้ใจได้

นักเตะที่จับตามอง

“สตานิสลาฟ โลบอตกา”

ติดทีมชาติชุดใหญ่ : 52 นัด (2016–ปัจจุบัน) กองกลางเจ้าเทคนิค วัย 29 ปี จากสโมสรนาโปลีบนเวทีกัลโช เซเรีย อา ถือเป็นนักเตะที่โชว์ฟอร์มได้อย่างสม่ำเสมอกับต้นสังกัดและทีมชาติ นับตั้งแต่ปี 2016 กองกลางรายนี้เป็นส่วนสำคัญในการพาทีมสโลวักตีตั๋วเข้าสู่รอบสุดท้ายศึกยูโรได้ทุกครั้ง โดยหนนี้จอมเทคนิคสั่งสมความมั่นใจเต็มเปี่ยม เพราะเพิ่งเป็นฟันเฟืองสำคัญในการพาสโมสรนาโปลีเถลิงแชมป์ “สคูเดตโต” ในฤดูกาล 2022/23 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 33 ปี โดยจุดเด่นของโลบอตกา คือ สามารถใช้เทคนิคในการเอาตัวรอดได้ดี ส่งบอลอย่างชาญฉลาด และเป็นผู้เล่นที่สร้างสมดุลในแดนกลางให้กับทีม รุกก็ได้ รับก็ดี

“ดาวิด ฮันโค”

ติดทีมชาติชุดใหญ่ : 37 นัด (2018–ปัจจุบัน)
ปราการหลังวัย 26 ปี มาพร้อมดีกรีแชมป์ เอเรดิวิซี ลีก กับ สโมสรเฟเยนูร์ด ซึ่งหลังจากย้ายซบทีมดังลีกดัตช์ในฤดูกาล 2022/23 เจ้าตัวยืนเป็นกองหลังคนสำคัญให้ต้นสังกัดมาโดยตลอด ส่งผลให้ได้รับโอกาสเป็นกองหลังตัวหลักให้กับทัพเหยี่ยว ลุยศึกยูโร 2024 รอบคัดเลือก จนบรรลุเป้าหมายในการพาทีมสโลวักเข้าร่วมศึกยูโรได้อีกคำรบ โดยจุดเด่นของฮันสโค คือ การมีรูปร่างสูงใหญ่ แข็งแกร่ง เข้าสกัดบอลได้แม่นยำ และเป็นผู้เล่นที่มักสร้างมิติให้เกมรุกจากการวางบอลยาวและทำประตูจากลูกกลางอากาศบ่อยครั้งในทัวร์นาเมนตนี้ขุนพลสโลวักยังคงนำโดยผู้เล่นคนสำคัญ อย่าง มาเร็ค ฮัมซิค, ออนเดรจ์ ดูดา, ยูราจ คุชกา, ปีเตอร์ เพการิค, มิลาน สคริเนียร์ และ มาร์ติน ดูบราฟกา

โอกาสเข้ารอบ
ตามหน้าเสื่อ โอกาสผ่านเข้ารอบของ “ทัพสโลวัก” ยังคงเปิดกว้าง แต่กระนั้นเองการเริ่มต้นนัดแรกของพวกเขาไม่ง่าย เพราะต้องพบกับทีมเต็งแชมป์ กลุ่มอย่างทีมชาติเบลเยียม ซึ่งถ้าหากพวกเขายันเสมอได้ ก็จะเป็นการเริ่มต้นที่ยอดเยี่ยมไม่น้อย เพราะขอเพียงเก็บชัยอีกนัด ก็แทบจะการันตีผ่านเข้ารอบ แต่หากแพ้ ก็จะต้องพยายามเก็บแต้มให้ได้มากที่สุดใน 2 นัดที่เหลือ เพื่อลุ้นผ่านเข้ารอบในฐานะรองแชมป์กลุ่ม หรือ อันดับ 3 ที่ดีที่สุดต่อไป

โปรแกรมการแข่งขัน
วันจันทร์ที่ 17 มิถุนายน เวลา 23.00 น. : ทีมชาติเบลเยียม
วันศุกร์ที่ 21 มิถุนายน เวลา 20.00 น. : ทีมชาติยูเครน
วันพุธที่ 26 มิถุนายน เวลา 23.00 น. : ทีมชาติโรมาเนีย