กรณีเพลิงไหม้โกดังเก็บสินค้า ซึ่งเป็นเม็ดพลาสติดและสารเคมี ของโรงงานแห่งหนึ่ง ใน อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี โดยเบื้องต้นระดมรถน้ำรถโฟมฉีดกว่า 15 คัน นานกว่า 1 ชั่วโมง ยังไม่สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ ขณะเดียวกันมีรายงานว่าสารเคมีรั่ว จึงประกาศแจ้งเตือนประชาชนให้เฝ้าติดตามสถานการณ์ ระวังผลกระทบทางมลพิษทางอากาศ ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ด่วน! ไฟโหมไหม้โกดังเก็บสารเคมี ประกาศเตือนประชาชนเฝ้าระวังมลพิษ
เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 11 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.ธิป แข่งคุ้ม ผกก.สภ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี ได้รับแจ้งเหตุดังกล่าว จึงนำกำลังตำรวจเข้าตรวจสอบ พร้อมประสานรถดับเพลิงจาก อบต. เทศบาลในพื้นที่ จ.เพชรบุรี เข้าระงับเหตุเพลิงไหม้เพิ่มเติม พบว่าเพลิงยังลุกไหม้รุนแรง มีเสียงปะทุดังขึ้นต่อเนื่อง และอาคารโกดังเก็บสินค้าถล่มลงมาทั้งหลัง เจ้าหน้าที่ต้องเร่งฉีดน้ำเพื่อสกัดเพลิงไม่ให้ลุกไหม้ไปยังพื้นที่ต่างๆ ใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง จึงควบคุมเพลิงไว้ได้ ขณะเดียวกัน นายณัฐชัย ลำพูนสุขสันต์ ผวจ.เพชรบุรี นายภัคพัส ส่งวัฒนายุทธ รอง ผวจ.เพชรบุรี นายอำเภอเขาย้อย ปภ.จังหวัดเพชรบุรี ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ผู้จัดการฝ่ายบัญชีโรงงานดังกล่าว เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุขณะพนักงานกำลังเดินทางมาทำงาน และเข้าไปเปิดสวิตช์ไฟ แต่ไฟไม่ติด ก่อนเกิดประกายไฟบริเวณดังกล่าว จากนั้นได้มีเสียงปะทุขึ้นที่โกดังเก็บสินค้า และเพลิงได้โหมไหม้อย่างรุนแรง จึงรีบแจ้งทาง อบต.หนองชุมพลเหนือ ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ดับเพลิงมาระงับเหตุดังกล่าว ส่วนสาเหตุคาดว่าน่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร เบื้องต้นมูลค่าความเสียหายไม่น่าตำกว่า 10 ล้านบาท แต่จะต้องประเมินความเสียหายที่แน่ชัดอีกครั้งต่อไป
นางกรคสรร เวชกุล นายก อบต.หนองชุมพล เปิดเผยว่า จากการสอบถามทราบว่า ก่อนเกิดเหตุยังไม่ใช่เวลาการทำงานของโรงงาน พนักงานบางส่วนมาถึงบริษัท ได้เข้าไปเปิดไฟแต่ไฟไม่ติด และได้เกิดประกายไฟที่ปลั๊กไฟ จากนั้นไฟโหมลุกไหม้อาคารเก็บสินค้าดังกล่าว หลังเพลิงสงบจะเข้าตรวจสอบและประเมินความเสียหายต่อไป ซึ่งภายในโกดัง เป็นที่เก็บประเภทสินค้า ทั้งถุงพลาสติกเก่า แล้วก็แอลกอฮอล์ ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ทำให้เพลิงโหมไหม้อย่างรุนแรง จนอาคารโกดังสินค้าได้พังถล่มลงมาทั้งหลัง โชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและผู้เสียชีวิต หลังจากนี้ได้ทำการปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลภายนอกเข้า ระหว่างรอประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่หาสาเหตุเพลิงไหม้อย่างละเอียดต่อไป
