เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 30 พ.ค. ที่ผ่านมา ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดอ่านคำพิพากษา คดีเว็บพนันออนไลน์ มาเก๊า 888 หมายเลข ดำอ.1140/2566 ที่พนักงานอัยการสำนักงานพิเศษ 4 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายอดิศักดิ์ นวลละออง, น.ส.พชรพร แซ่ตั๊น, น.ส.นันทวรรณ โรจน์สุวรรณชัย, น.ส.หัทยา ลองศิริคง, น.ส.แววเทียน ไทยสงคราม, นายวรุตม์ กาญจนปภากูล, นายธนิตพงศ์ สุรีโชติภิรมย์, นายณัฐพงศ์ ระชินลา และนายชัยวัฒน์ ขจรบุญถาวร หรือ เบนซ์ เดม่อน นักธุรกิจชื่อดัง พี่ชายคนโตพี่น้องตระกูล บ. ที่ 9 เป็นจำเลยที่ 1-9 ในความผิดฐาน ร่วมกันจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน และสมคบกันโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงิน เพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน

‘เบนซ์ เดม่อน’ กับพวกจำเลยรวม 9 คน ขึ้นศาลแถลงปฏิเสธสู้คดี เว็บพนันออนไลน์ ‘มาเก๊า 888’

กรณีพวกจำเลยร่วมกันเปิดเว็บไซต์การพนันชื่อหวยสดพลัส (www.huaysodplus.com) และเว็บไซต์อื่น อาทิ เว็บไซต์พนัน มาเก๊า 888 ซึ่งจำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธ สู้คดี

โดยศาลพิพากษาว่า การกระทำของจำเลยที่ 1-7 เป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความไป ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฐานร่วมกันช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่น จำคุกจำที 3,6คนละ 3 เดือน ฐานร่วมกันเป็นผู้จัดให้มีการเล่นพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ จำคุกจำเลยที่ 3,6 คนละ 3 เดือน ฐานร่วมกันเป็นเจ้ามือรับกินรับใช้และฐานร่วมกันเป็นผู้เล่น เป็นการกระทำกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษให้ลงโทษฐานร่วมกันเป็นเจ้ามือรับกินรับใช้ ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดเพียงบทเดียว จำคุกจำเลยที่ 3,6 คนละ 3 เดือน ฐานสมคบกันกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และฐานร่วมกันฟอกเงิน

ซึ่งแต่ละบทมีอัตราโทษเท่ากัน ให้ลงโทษให้ลงโทษฐานร่วมกันฟอกเงินบทเดียว จำคุกจำเลยที่ 6 กระทงละ 1 ปี รวม 103 กระทง จำคุกจำเลยที่ 1 กระทงละ 1 ปี รวม 4 กระทง จำคุกจำเลยที่ 2 กระทงละ 1 ปี รวม 3 กระทง จำคุกจำเลยที่ 3 มีกำหนด 1 ปี จำคุกจำเลยที่ 4 กระทงละ 1 ปี รวม 8 กระทง จำคุกจำเลยที่ 5 กระทงละ 1 ปี รวม 3 กระทง จำคุกจำเลยที่ 7 กระทงละ 1 ปี รวม 5 กระทง ฐานสนับสนุนร่วมกันช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่น จำคุกจำเลยที่ 1,2,4,5,7 คนละ 2 เดือน ฐานสนับสนุนร่วมกันเป็นผู้จัดให้มีการเล่นพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ จำคุกจำเลยที่ 1,2,4,5,7 คนละ 2 เดือน ฐานสนับสนุนร่วมกันเป็นเจ้ามือรับกินรับใช้และฐานร่วมกันเป็นผู้เล่น เป็นการกระทำกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษให้ลงโทษฐานร่วมกันเป็นเจ้ามือรับกินรับใช้ ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดเพียงบทเดียว ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุกจำเลยที่ 1,2,4,5,7 คนละ 2 เดือน จำเลยที่ 1-5 และที่ 7 ยังมีความผิดฐานสนับสนุนการสมคบกันกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และฐานสนับสนุนการร่วมกันฟอกเงิน ซึ่งเป็นการกระทำกรรมเดียวของจำเลยที่ 1-5 และที่ 7 อีกคนละ 1 กระทง จำคุกคนละ 8 เดือน จำเลยที่ 6 ให้การรับสารภาพ และจำเลยที่ 1-5 และที่ 7 ให้การรับสารภาพบางข้อหา เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กระทงละกึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78

ฐานร่วมกันช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่น คงจำคุกที่ 3 และที่ 6 คนละ 1 เดือน 15 วัน ฐานร่วมกันเป็นผู้จัดให้มีการเล่นพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ คงจำคุกจำเลยที่3 และที่ 6 คนละ 1 เดือน 15วัน ฐานร่วมกันเป็นเจ้ามือรับกินรับใช้และฐานร่วมกันเป็นผู้เล่นซึ่งลงโทษให้ลงโทษฐานร่วมกันเป็นเจ้ามือรับกินรับใช้ คงจำคุกจำเลยที่ 3และที่ 6 คนละ 1 เดือน 15วัน ฐานร่วมกัน ฟอกเงินคงลงโทษจำคุกจำเลยที่ 6 กระทงละ 6เดือน รวม 103 กระทง คงจำคุกจำเลยที่ 1 กระทงละ 6 เดือน รวม 4 กระทง คงจำคุกจำเลยที่ 2 กระทงละ 6 เดือน รวม 3 กระทง คงจำคุกจำเลยที่ 3 มีกำหนด 6 เดือน คงจำคุกจำเลยที่ 4 กระทงละ 6 เดือน รวม 8 กระทง คงจำคุกจำเลยที่ 5 กระทงละ 6 เดือน รวม 3 กระทง คงจำคุกจำเลยที่ 7 กระทงละ 6 เดือน รวม 5 กระทง

รวมจำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 38 เดือน รวมจำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 32เดือน รวมจำคุกจำเลยที่ 3 มีกำหนด 18 เดือน 15 วัน รวมจำคุกจำเลยที่ 4 มีกำหนด 62 เดือน รวมจำคุกจำเลยที่ 5 มีกำหนด 32 เดือน รวมจำคุกจำเลยที่ 6 มีกำหนด 622 เดือน 15 วัน รวมจำคุกจำเลยที่ 7 มีกำหนด 44 เดือน สำหรับจำเลยที่ 6 เป็นกรณีความผิดกระทงที่หนักที่สุดมีอัตราโทษอย่างสูงเกิน 3 ปี แต่ไม่เกิน 10 ปี จึงให้ลงโทษจำคุกจำเลยที่ 6 มีกำหนด 20 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 (2) ริบของกลาง ยกฟ้องจำเลยที่ 8 และจำเลยที่ 9 .