กำลังเป็นที่พูดถึงกันเป็นอย่างมากอยู่ในขณะนี้ ภายหลังจากที่สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. เกี่ยวกับเหตุการณ์สะเทือนขวัญ เมื่อหญิงชาวอินโดนีเซีย วัย 50 ปี ชื่อ “ฟาริดา” คุณแม่ซึ่งมีบุตร 4 คน ถูกงูเหลือมยักษ์เขมือบทั้งเป็น ระหว่างกำลังเดินลัดเลาะตามป่า เพื่อไปขายอาหารที่ตลาดแห่งหนึ่ง ใกล้กับหมู่บ้าน ที่เมืองกาเลมปัง ในจังหวัดสุลาเวสีใต้ ตามที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น
-ช็อกสยองโลก! หญิงอินโดฯ ถูก ‘งูเหลือมยักษ์’ เขมือบทั้งเป็นคาเกาะสุลาเวสี

ล่าสุดเมื่อวันที่ 11 มิ.ย. โลกออนไลน์ได้พูดถึงเรื่องดังกล่าว เมื่อ “นิค อสรพิษวิทยา” ผู้เชี่ยวชาญเรื่องงู ได้โพสต์ผ่านเพจ Nick Wildlife ว่า อินโดนีเซีย งูเหลือมยักษ์ กินหญิง เมืองสิดราป สุลาเวสีใต้ ฟาริดา วัย 50 ปี ชาวบ้านกาเลมปัง เมืองสิดราป สุลาเวสีใต้ ถูกพบเสียชีวิตในท้องของงูตัวหนึ่ง หลังจากที่งูกลืนกินเธอทั้งร่าง เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นรายหนึ่งกล่าวเมื่อวันเสาร์ 8/6 “งูเหลือมกินคนหลายๆ คนกังวลแล้วก็กลัว จริงแล้วๆ สัตว์พวกนี้ไม่ได้ต้องการที่จะทำอันตรายมนุษย์” อาจจะต่างจากที่อินโดนีเซีย คืองูที่นั้นจะเป็นงูที่มีขนาดใหญ่ ที่นู่นส่วนมากยังเป็นธรรมชาติ งูยังรู้จักมนุษย์ไม่มากมายเท่าไหร่ เขาอาจจะมองว่ามนุษย์ที่นั้นก็คือเป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศเรียกได้ว่าถ้าเกิดว่ามนุษย์มีขนาดเล็กเขาก็อาจจะกินเป็นอาหารซึ่งเป็นกฎของธรรมชาติ

มันจะต่างจากประเทศไทยผมเชื่อมั่นว่าประเทศไทยงูรู้จักคนตั้งแต่เล็กๆ เลย แล้วก็รู้ว่ามนุษย์เป็นสัตว์ที่เป็นภัยคุกคามสำหรับเขา เขาแทบจะไม่มองว่าเราเป็นอาหาร แต่จะมองว่าเราคือผู้ล่า จากที่คุณเห็นว่างูขนาดนี้ต่อให้ใหญ่แต่เขาจะเคลื่อนไหวช้ามาก แล้วก็เราเข้าไปใกล้เขา เขาก็ไม่อยากจะยุ่งกับเรา นั่นก็คือว่าการเคลื่อนไหวแต่ละครั้งต้องใช้พลังงานแล้วก็เสี่ยงที่ร่างกายจะได้รับบาดเจ็บด้วย เลยไม่อยากให้คุณต้องวิตกกังวลมากเกินไป แต่ถ้าสมมุติว่ามันมีผลกระทบในเรื่องงูเหลือมอาจจะเข้าไปกินสุนัข กินแมว คุณก็สามารถที่จะเรียกเจ้าหน้าที่ที่มีความชำนาญมาจับ แล้วก็งูเหลือมจะเป็นสัตว์คุ้มครองตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า ดังนั้นพอจับแล้วเขาจะส่งมอบให้กรมอุทยานฯซึ่งก็จะพิจารณาอีกทีหนึ่งว่าจะดูแล หรือปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ..

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก @Nick Wildlife