กรณีเหตุตลิ่งริมแม่น้ำเจ้าพระยา ใกล้โรงเรียนวัดธรรมามูล อ.เมือง จ.ชัยนาท ทรุดตัว ทำให้โรงจอดรถของโรงเรียนที่อยู่ติดกับริมแม่น้ำเจ้าพระยา พังถล่ม และมีรถยนต์ครู 3 คัน และรถจักยานยนต์นักเรียน 5 คัน จมลงไปในแม่น้ำเจ้าพระยา นอกจากนี้ ยังมีแพ และกุฏิ ของวัดธรรมมามูล จมลงไปในน้ำเสียหายด้วย เหตุเกิดเมื่อช่วงเช้าวันที่ 10 มิ.ย. ที่ผ่านมา ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

โผล่พังอีก! ตลิ่งริมน้ำเจ้าพระยาชัยนาททรุดตัว ‘ลอยอังคาร’ อยู่วิ่งหนีตายวุ่น

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่หลายภาคส่วนประกอบด้วย กรมเจ้าท่า สำนักเครื่องจักรกล สำนักงานชลประทานที่ 12 แขวงทางหลวงชนบท และปกครองส่วนท้องถิ่น เร่งดำเนินการนำรถเครนขนาดใหญ่ ของกรมชลประทาน มาเก็บกู้รถยนต์ที่จมน้ำ รวมไปถึงแพของวัดที่ได้รับความเสียหายขึ้นบนบก

นายเพทาย คล้ายสมาน รอง นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลธรรมามูล เปิดเผยว่า เบื้องต้นทางอำเภอเมืองชัยนาท รวมไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เร่งทำการกู้รถที่จมลงไปในน้ำขึ้นมา หลังจากนี้ ทางเทศบาลตำบลธรรมามูลได้ทำการปรึกษากับโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดชัยนาท เกี่ยวกับการป้องกันเหตุดินถล่มซ้ำอีก ส่วนรถยนต์ ที่จมน้ำได้รับความเสียหาย ทางเทศบาลอยู่ระหว่างการประชุมปรึกษาเกี่ยวกับการมอบเงินทนแทนช่วยเหลือเจ้าของรถ

นายธนาพัทธ์ พุ่มพิพัฒน์ เจ้าพนักงานตรวจท่า สำนักงานเจ้าท่า ภูมิภาค สาขาสุพรรณบุรี เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมเจ้าท่าได้ประสานไปยังส่วนงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำเรือเข้ามาทำการเก็บกู้สิ่งต่างๆยังจุดเกิดเหตุ นอกจากนี้ยังได้มีการสำรวจความเสียหายของจุดเกิดเหตุ และรายงานให้กรมเจ้าท่าได้รับทราบเพื่อที่จะดำเนินการของบประมาณสนับสนุนในการสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งต่อไป สำหรับในจุดเกิดเหตุเองยังมีโอกาสที่ดินจะสไลด์ลงไปอีก หลังจากนี้เมื่อทำการเก็บกู้เสร็จแล้ว ทางกรมเจ้าท่า ได้ประสานไปยังหน่วยงานในพื้นที่ ให้นำเสาเข็มไม้มาทำการตอกเอาไว้ก่อนเพื่อป้องกันดินที่อาจจะสไลด์ลงไปอีก

นางบุษบา โพธิ์คงคา ครูหนึ่งในผู้สียหายรถจมอยู่ในน้ำ เปิดเผยว่า หากหลังที่ทางเจ้าหน้าที่เก็บกู้รถขึ้นมาได้แล้ว ตนก็ไม่อยากจะเรียกร้องค่าเสียหายอะไร เนื่องจากเป็นภัยธรรมชาติ แต่ก็ยังอยากให้หน่วยงานช่วยเหลือเยียวยาสักนิด ก็จะขอบคุณ