บอนนี ลู โกเวอร์เคยแต่งงานกับริชาร์ด อีโวนิตซ์อยู่นานถึง 8 ปี ก่อนจะหย่าขาด ต่อมาภายหลัง เธอจึงได้รับแจ้งจากทางการว่าเขาก่อคดีร้ายแรงหลายครั้ง เป็นทั้งโจรลักพาตัว นักข่มขืนและฆาตกรต่อเนื่อง โดยมีเด็กสาววัยรุ่นที่ตกเป็นเหยื่อสังหารของเขาอย่างน้อย 3 คน

โกเวอร์แต่งงานกับอีโวนิตซ์ตอนที่เธอเพิ่งอายุเพียง 17 ปี และหย่าขาดจากเขาตอนที่เธออายุได้ 25 ปี หลังจากที่เธอแต่งงานครั้งที่ 2 สำนักงานสืบสวนกลางหรือเอฟบีไอก็แจ้งมาที่เธอว่า สามีคนแรกของเธอเป็นฆาตกรที่ลงมือสังหารเด็กสาวไปแล้ว 3 คน

โกเวอร์อ้างว่าเธอมาค้นพบในภายหลังว่า อีโวนิตซ์ลงมือฆ่าคนทั้งก่อนหน้าและระหว่างที่เขาแต่งงาน ใช้ชีวิตอยู่กับเธอ

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โกเวอร์ได้โพสต์คลิปวิดีโอบนแพลตฟอร์มติ๊กต็อก เล่าประสบการณ์ระหว่างที่เธอใช้ชีวิตคู่กับฆาตกรต่อเนื่อง พร้อมกับเผยสิ่งที่เธอมองว่าคือ “สัญญาณเตือนอันตราย” ว่าอดีตสามีของเธอ “ไม่ปกติ”

ประการแรกคือ อีโวนิตซ์เริ่มบ่นว่าเธออ้วนและควรจะลดความอ้วน ถ้าเธอแอบกินอาหารนอกแผนลดน้ำหนัก เขาจะด่าว่าในที่สุดเธอก็จะอ้วนเหมือนแม่ของเธอ 

ประการที่ 2 โกเวอร์บอกว่าเขาไม่สนับสนุนให้เธอเรียนต่อในวิทยาลัย แม้ว่าท้ายที่สุดแล้ว เขาจะยอมให้เธอไปเรียนที่โรงเรียนเสริมสวย ซึ่งเธอบอกว่าเป็นการกระทำที่ช่วยเปิดโลกให้เธอ ทำให้เธอได้ออกจากบ้านและมีเพื่อนใหม่ ๆ ซึ่งทำให้อดีตสามีของเธอไม่พอใจอย่างมาก

ประการที่ 3 อีโวนิตซ์สั่งห้ามเธอไม่ให้คุยเรื่องชีวิตคู่ของพวกเขากับคนอื่น ๆ และเนื่องจากในตอนนั้นเธอไม่มีเพื่อนมากนัก ก็เลยไม่รู้ว่าชีวิตคู่ของเธอแตกต่างไปจากของคนอื่น ๆ อย่างไรบ้าง ซึ่งเธอคิดว่านั่นคือสิ่งที่อดีตสามีของเธอต้องการ

ชีวิตแต่งงานของเธอกับอีโวนิตซ์ไม่ราบรื่นนัก แต่เธอก็พยายามรักษาชีวิตคู่เอาไว้ เธอไม่ระบุว่าเขาเคยทำร้ายร่างกายเธอหรือไม่ แต่บอกว่าเขาจำกัดวงเงินค่าโทรศัพท์เวลาที่เธอต้องการโทรกลับไปหาครอบครัวของเธอ

ระหว่างที่อยู่ในเวอร์จิเนีย อีโวนิตซ์ลักพาตัวและฆาตกรรมโซเฟีย ซิลวาวัย 16 ปีเป็นรายแรกในปี 2539 จากนั้นอีก 7 เดือน เขาก็ลักพาตัวสองพี่น้อง คริสติน ลิสค์วัย 15 ปีและเคที่ ลิสค์วัย 12 ปีไปจากสวนหน้าบ้านของเด็กหญิง เขาข่มขืนและสังหารพวกเธอก่อนที่นำศพไปทิ้งในแม่น้ำ

ในช่วงนั้นเองที่เขามีอาการสติแตกและเคยคาดคั้นกับเธอว่า ถ้าจำเป็น เธอจะยอมหนีออกนอกประเทศกับเขาหรือไม่ รวมถึงยังคอยถามคำถามน่าสงสัยในช่วงที่มีเด็กสาวเสียชีวิตในชุมชนที่พวกเขาอาศัยอยู่

ในปี 2545 อีโวนิตซ์ใช้ปืนจี้ คารา โรบินสัน แชมเบอร์เลน วัย 15 ปีจากสนามหน้าบ้านของเธอในเซาท์แคโรไลนา และพาตัวเธอไปขังไว้ในอพาร์ตเมนต์ของเธอ ต่อมา เด็กสาวก็หลบหนี้ออกมาได้ระหว่างที่เขานอนหลับและเข้าแจ้งความ 

หลังจากตำรวจติดตามไล่ล่าอีโวนิตซ์ทางรถยนต์อยู่ 3 วันหลังจากนั้น เขาก็ตัดสินใจยิงตัวตาย

โกเวอร์ ซึ่งวางแผนจะตีพิมพ์หนังสือเกี่ยวกับประสบการณ์สุดสยองของเธอเร็ว ๆ นี้กล่าวว่า พอนึกย้อนกลับไปแล้ว เธอคิดว่ามันเป็นเรื่องบ้าบอมาก ตอนนั้นเธอคิดว่าอดีตสามีก็แค่เครียดจากงานเพราะเขาเพิ่งออกจากการเป็นทหารและย้ายมาอยู่ที่รัฐเวอร์จิเนียเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ พร้อมกับหางานทำไปด้วย 

ด้านแชมเบอร์เลนซึ่งเป็นเหยื่อรายสุดท้ายของอีโวนิตซ์ก็ออกมาโพสต์คลิปสั้น ๆ บนติ๊กต็อกเมื่อวันที่ 4 มิ.ย. ที่ผ่านมา เล่าว่าเธอรอดชีวิตได้เพราะพยายามทำตัวให้นิ่งและใจเย็น เธอทำให้เขาวางใจจนกล้านอนหลับ ซึ่งเป็นจังหวะที่เธอใช้ฟันคลายตัวยึดกุญแจมือกับเตียงที่เขาล่ามเธอไว้ แล้วหนีออกมาได้ในที่สุด

แม้จะไม่มีการยืนยันแน่ชัด แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่า อีโวนิตซ์เคยก่ออาชญากรรมมาแล้วหลายครั้ง ไม่เพียงแต่คดีที่มีหลักฐานยืนยันว่าเป็นฝีมือของเขา ตำรวจเชื่อว่าเขาลงมือสังหารเหยื่ออีกอย่างน้อย 1 รายในช่วงที่เขายังใช้ชีวิตคู่อยู่กับโกเวอร์

ที่มาและเครดิตภาพ : ladbible.com, nypost.com, X/@bonnielouwriter