ศึก ONE 167 ที่อิมแพ็ค อารีนา เมืองทองธานี เมื่อ 8 มิ.ย. ที่ผ่านมา คู่เอก ชิงแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต (145-155 ป.) “ซ้ายดารา” ตะวันฉาย พีเค.แสนชัย ป้องกันเข็มขัดครั้งที่ 3 ชนะคะแนน ผู้ท้าชิงอันดับ 3 ของแรงกิง โจ ณัฐวุฒิ ไปอย่างสูสี ดุเดือด เร้าใจ หลังจากที่ ตะวันฉาย เคยชนะคะแนน โจ ณัฐวุฒิ มาแล้วในกติกาคิกบ็อกซิ่งเมื่อเดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา แบบสูสี เร้าใจ เช่นกัน

แต่หลังจบการชกภาค 2 ของทั้งคู่ เกิดดราม่าสนั่นเมืองไทยและโลกโซเซียล มีเสียงโห่บนเวที หลังผลการตัดสินออกมา โดยที่แฟนมวยและผู้ชมเสียงแตกเป็น 2 ฝั่ง บอกว่า โจ ณัฐวุฒิ สมควรเป็นผู้ชนะ ขณะที่อีกฝั่งก็บอกว่า ตะวันฉาย ชนะนั้นถูกแล้ว

จากที่ดูผลดราม่ามาหลายวัน สรุปได้ว่า แฟนมวยเห็นพ้องต้องกันว่า ไม่ได้ด่า ตำหนินักมวย หรือนักกีฬา เพราะทั้งคู่ทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างดีที่สุดแล้ว แต่ด่าผลการตัดสิน เท่านั้น ขณะที่ โจ ณัฐวุฒิ แสดงสปิริตนักกีฬา เคารพการตัดสิน และให้กำลังใจ ตะวันฉาย หรือ “เจ้ากัน” ว่า “น้องแข็งแรงมาก เก่งมาก สมกับที่เป็นแชมป์”

เรื่องการตำหนินักมวยจึงถือว่าจบกัน แฟนมวยยังชื่นชอบทั้งคู่ เข้าใจ แยกแยะได้ และนักมวยทั้งคู่ต่างไม่ได้ติดใจเรื่องผลการตัดสิน ดังนั้น ตะวันฉาย จึงสบายใจได้ ในเมื่อเป็นแชมป์ เป็นนักกีฬา ต้องมีประสบการณ์ ยอมรับ และต่อสู้กับเรื่องแบบนี้ได้ ต้องตั้งใจ ทุ่มเท พัฒนาฝีมือต่อไป ผลงานคือคำตอบดีที่สุด

ในใบคะแนน กรรมการทุกคนเห็นว่า โจ ชนะในยก 3 ขาดลอยทุกคน แต่ความเป็นจริง ชนะขาดแค่ไหน ถ้าไม่ได้นับ หรือไล่ยำข้างเดียว คะแนนก็ชนะแค่ 10-9 ทว่าจะเป็นภาพจำให้แฟนมวยดูว่า โจ เหนือกว่า ขณะที่ยก 1, ยก 4 และยก 5 คะแนนเป็นของ ตะวันฉาย แม้ชนะนิด ๆ คะแนนก็ 10-9 เช่นกัน แต่ภาพจำแฟนมวยคือ ตะวันฉาย ไม่เหนือกว่า ส่วนยก 2 เป็นได้ทั้ง โจ และ ตะวันฉาย สรุป โจ ชนะ 2 ยก แต่ ตะวันฉาย ได้ 3 ยก แต่แฟนมวยมีภาพจำที่ดีของ โจ ในยก 3 มากกว่า

ขณะที่หลายเสียงพูดกันว่า แม้แต่ “บอสชาตรี” ชาตรี ศิษย์ยอดธง ประธาน ONE ยังบอกว่า โดยส่วนตัวเห็นว่า โจ น่าชนะ แต่อย่าลืมว่า เมื่อฟังคำพูดทั้งหมด บอสชาตรี นั้นบอกว่า การชกครั้งนี้สูสีมาก แน่นมาก โจ ขยันออกอาวุธ และออกอาวุธได้ดี แต่ ตะวันฉาย ก็ทำได้ดีเช่นกัน มีลูกหนักชัดเจนหลายดอก ที่สำคัญ บอสชาตรี ย้ำว่า เป็นความเห็นส่วนตัว ตนเองไม่ใช่กรรมการ ซึ่งดูแล้วต้องหมายความว่า ตนไม่ใช่คนที่มีอาชีพเป็นกรรมการตัดสิน ที่ต้องมีความชำนาญ ผ่านการอบรม ฝึกฝน มีประสบการณ์เพื่อมาทำหน้าที่นี้โดยเฉพาะ 

แต่บอสชาตรี ก็ทำหน้าที่ในฐานนะโปรโมเตอร์รายการระดับโลกแล้ว โดยบอกว่า มวยคู่นี้ต้องมีภาค 3 และจะจัดที่สหรัฐอเมริกา เร็ว ๆ นี้ ถึงเวลานั้น จากกระแสที่มาแรง มวยคู่นี้จะเป็นคู่มวยที่โลกรอคอยอีกครา

บทสรุปของดราม่านี้ รวมแล้ว จึงออกมาว่า แฟนมวยไม่ได้ติดใจในฝั่งของนักมวย แต่ติดใจเรื่องการตัดสิน และส่วนมากยอมรับว่าเป็นการชกที่สูสีมาก จึงมีการวิพากษ์วิจารณ์กันสนั่นทั้ง 2 ฝั่ง นับเป็นเรื่องธรรมดาของกีฬาระดับโลก และ ONE ต้องทำหน้าที่รายการระดับโลกเช่นกัน นั่นคือจัดศึกล้างตาอีกหน

รอชมภาค 3 กันดีกว่า มันกว่าเดิมแน่นอน เพราะทั้งคู่ต้องทุ่มเทเตรียมตัวกันมาสุดลิ่มทิ่มประตู กว่าดิมแน่นอน…ด้วยประการทั้งปวง