เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. เวลา 14.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมหารือหัวหน้าและแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล ว่า นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ทำหน้าที่ประธานการประชุม โดยนายกฯ ได้แวะเข้ามาทักทายในช่วงต้นเท่านั้น โดยพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 โดยในการประชุมดังกล่าว ได้มีการหารือถึงเรื่องตารางเวลา เกี่ยวกับที่จะมีการเสนอวงเงินงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 และร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2568 โดยทั้งหมดไม่ได้เน้นย้ำอะไรเป็นพิเศษในเรื่องเหล่านี้ โดยได้พูดคุยกันถึงเรื่องการกำหนดสัดส่วนของผู้ที่จะมาเป็นกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ปี 2568 ทั้งในส่วนของคณะรัฐมนตรี สส.ฝ่ายรัฐบาล และฝ่ายค้าน ซึ่งการแบ่งสัดส่วนดังกล่าว เรายังยึดถือหลักการเดิม เพื่อจะได้ไม่ต้องมีปัญหาอะไร ซึ่งการหารือทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี

ผู้สื่อข่าวถามว่าฝ่ายรัฐบาลจะเน้นย้ำการชี้แจงเรื่องไหนเป็นพิเศษหรือไม่ ในร่างงบประมาณดังกล่าว นายอนุทิน กล่าวว่า เราต้องมีความพร้อมชี้แจงทุกประเด็น เพราะ สส. ที่จะอภิปรายมีทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน จะอภิปรายตั้งข้อสงสัยและเสนอข้อคิดเห็น ซึ่งรัฐมนตรีของแต่ละกระทรวง รวมถึงผู้ที่จะมาทำหน้าที่เป็นกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ปี 2568 ก็ต้องเตรียมความพร้อมรับข้อคิดเห็นเหล่านี้

ผู้สื่อข่าวถามว่าในการประชุมดังกล่าว ได้พูดคุยถึงสถานการณ์การเมืองที่กำลังดุเดือดในขณะนี้ด้วยหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่มีเลย เป็นการประชุมเรื่องงานล้วนๆ

เมื่อถามว่า คิดว่าเสียง สส. ที่มีอยู่ในรัฐบาลตอนนี้จะทำให้ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ปี 2568 ผ่านสภาได้ฉลุยได้ ใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า จำนวนเสียง สส. ของรัฐบาลยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่ถ้าจะบอกว่าผ่านฉลุยแน่นอน พูดอย่างนั้นไม่ได้ และไม่ได้หมายความว่าจะไม่ต้องไปชี้แจงอะไรหรือคิดจะทำอะไรก็ได้ อย่างนั้นมันไม่ใช่ เพราะทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมาย ความชอบธรรม และหลักธรรมาภิบาล ไม่มีอะไรที่เป็นของตาย

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าด้วยสถานการณ์การเมืองในขนาดนี้ ยังมั่นใจอยู่ใช่หรือไม่ว่าร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว จะผ่านโดยไม่มีผลกระทบอะไรตามมา เพราะในการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 2567 ขณะนั้น มีกระแสข่าวว่าอาจมีการเปลี่ยนขั้วการเมือง นายอนุทิน กล่าวว่า “ผมคิดว่าไม่มีนะ นี่เป็นรัฐบาลนะครับ ไม่ใช่เรื่องที่ใครอยากจะได้อะไร แล้วถ้าไม่ได้อย่างใจก็ออกมางอแงกัน มันไม่ใช่หรอก ทุกอย่างต้องทำความเข้าใจกัน เรื่องความคิดเห็นที่ไม่ต้องกันนั้นเป็นเรื่องธรรมดา ผมเชื่อว่าหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลทุกคนสามารถต่อสายตรงพูดคุยกันได้ ถ้าใครมีอะไรกัน ก็เคลียร์กันให้จบ อย่าให้ประชาชนต้องเดือดร้อน และอย่าให้ประโยชน์ที่ควรต้องตกอยู่กับประชาชนนั้นต้องถูกลิดรอน ผมเชื่อว่าจะไม่เกิดปัญหาอะไร อย่าไปกังวลกันเลย” นายอนุทิน กล่าว

เมื่อถามว่าในการประชุมดังกล่าว ได้พูดคุยกันถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ให้สัมภาษณ์ที่ จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. ที่ผ่านมา ว่าคนที่วุ่นวายก็มีแต่คนที่บ้านป่า ด้วยหรือไม่ เพราะถูกมองว่าจะกระทบกับพรรคพลังประชารัฐ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่มีพูดถึงเรื่องนี้ รัฐบาลชุดนี้ไม่มีพูดเล่น พูดแต่เรื่องงาน และเมื่อพูดคุยเรื่องงานเสร็จแล้วก็ปิดประชุมเลย

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการหารือถึงตำแหน่งรัฐมนตรีที่ยังว่างอยู่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่มีและไม่เกี่ยวกัน รวมถึงคนที่ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุมวันนี้คือนายพิชัย ที่เป็นรองนายกฯ และรมว.คลัง ส่วนเรื่องการปรับคนเข้า-ออก ครม. เป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรี

เมื่อถามว่าวงเงินใน พ.ร.บ.งบประมาณฯ ปี 2568 จำนวน 3.6 ล้านล้านบาท จะเพียงพอต่อการใช้จ่ายในการบริหาราชการแผ่นดินหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า มันต้องพอ รัฐบาลจะพยายามทำให้พอ เพราะ พ.ร.บ. คือกฎหมาย เราก็ต้องทำตามกฎหมาย แต่หากในอนาคตจะต้องเปลี่ยนแปลงอะไร ก็ต้องเปลี่ยนแปลง ซึ่งก็เหมือนกับการแก้ไขกฎหมายอย่างหนึ่ง