เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 10 มิ.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าหารือเร่งรัดการปราบปรามน้ำมันปาล์มเถื่อนเข้าประเทศ โดยมี พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ผู้แทนจากกองทัพเรือและกรมศุลกากร

โดยนายกรัฐมนตรีได้สอบถามเรื่องของการพบปัญหาการลักลอบน้ำมันปาล์มเถื่อน ในส่วนของกองทัพเรือมีการพบเห็นบ้างหรือไม่โดยทางกองทัพเรือได้ชี้แจงว่า ตั้งแต่ปี 2558 ยังไม่มีการพบเห็นการลักลอบน้ำมันปาล์มเถื่อนผิดกฎหมายเข้าประเทศ แต่นายกรัฐมนตรีได้แย้งว่าในรายงานนั้นมีอยู่ ตนมองว่า ต้องมีการตรวจสอบให้เข้มงวดมากยิ่งขึ้น พร้อมกับขอให้เพิ่มมาตรการ

จากนั้นผู้แทนกรมศุลกากร ได้ยืนยันกับนายกรัฐมนตรีว่าไม่มีข้อมูลการลักลอบน้ำมันปาล์มผิดกฎหมายเข้าประเทศ ย้ำว่าทุกอย่างเรียบร้อยดี นายกรัฐมนตรีจึงเน้นย้ำว่าให้เฝ้าระวังตามด่านก็แล้วกัน นายกรัฐมนตรียังได้ฝากไปยัง ผู้บัญชาการสอบสวนกลาง ให้ตำรวจน้ำดำเนินการตรวจสอบมากยิ่งขึ้น ซึ่งผู้บัญชาการสอบสวนกลางรายงานว่า ที่ผ่านมา พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง จเรตำรวจแห่งชาติ ลงมาปราบปรามน้ำมันเถื่อนอย่างจริงจัง ในทุกรูปแบบ ทุกน้ำมัน แต่เรื่องน้ำมันปาล์มถือว่าเป็นเรื่องใหม่ ที่จะต้องลงไปดู

ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะหันไปถามผู้แทนจากกรมศุลกากรว่า มีเรื่องน้ำมันเถื่อนลักลอบเข้ามาทางภาคใต้ ผู้แทนศุลกากร กล่าวว่า ได้มีการบูรณาการร่วมกันอย่างเข้ม นายกรัฐมนตรีจึงย้ำว่าขอให้ยกระดับในทุกมาตรการที่สามารถทำได้ อย่างที่ตนบอกทั้งเรื่องของยางพาราเถื่อน ทางตำรวจภูธรภาค 7 ร่วมกับทหาร ร่วมกันทำให้ราคายางพาราเพิ่มมากขึ้น ตนจึงขอฝากเรื่องนี้ไว้แล้วกัน พร้อมย้ำว่า หากจับกุมได้ ขอให้ดำเนินการขยายผล ตนขอฝากทุกภาคส่วนไว้ด้วยก็แล้วกัน