ทีมชาติออสเตรีย เข้าร่วมการแข่งขันมาแล้ว 3 ครั้ง ซึ่งผลงานที่ดีที่สุดของพวกเขาในรายการฟุตบอลยูโร คือ ยูโร 2020 ครั้งล่าสุด นั่นเพราะพวกเขาสามารถทะลุเข้าไปในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ถึงแม้ว่าท้ายที่สุดจะต้องตกรอบไปอย่างน่าเสียดายด้วยการแพ้ ทีมชาติอิตาลี แชมป์ในครั้งนั้น ซึ่งในครั้งที่ 4 นี้ พวกเขากลับมาพร้อมฟอร์มที่ดีเยี่ยม ตลอดการแข่งขันในรอบคัดเลือก โดย ชนะ 6 นัด เสมอ 1 นัด แพ้ 1 นัด จาก 8 นัด ทำให้ทีมชาติออสเตรียผ่านเข้ารอบมาเล่นในศึกฟุตบอลยูโรในครั้งนี้ในฐานะอันดับที่ 2 ของกลุ่ม ด้วยแต้มที่ห่างเพียง 1 คะแนนเท่านั้น น่าสนใจว่าการแข่งขันในครั้งนี้ พวกเขาจะฉายหนังซ้ำดีได้เหมือนเดิม หรือดีกว่าเดิมได้หรือไม่

ผู้จัดการทีม
“ราล์ฟ รังนิก”

อดีตกุนซือของแมนฯ ยูไนเต็ด และสโมสรในเครือ เรดบูลล์ หลังจากออกจากแมนฯ ยูไนเต็ด ออสเตรียจึงเลือกเขาเข้ามาคุมทัพ เพื่อช่วยพาทีมชาติออสเตรีย ลงเล่นในรอบคัดเลือก ซึ่งด้วยประสบการณ์จากคุมทีมใหญ่ๆ ด้วยอายุอานามถึง 65 ปี นั่นเป็นสิ่งที่ช่วยให้ทีมชาติออสเตรีย มีผลงานที่ดีขึ้น 4-2-3-1 คือแผนการเล่นที่เขามักจะใช้ ซึ่งเช่นเดียวกันกับการคุมทัพออสเตรียด้วย จากคนที่ถูกแฟนบอลแมนฯ ยูไนเต็ด ผลักไสไล่ส่ง สู่คนสำคัญที่แฟนบอลออสเตรียต่างยกย่องในฝีมือ จริงอยู่ว่าตัวเขาไม่เคยคุมทีมชาติใด เข้ามาเล่นในทัวร์นาเมนต์ใหญ่ๆ เลย แต่มิได้หมายความว่านั่นจะเป็นการทำให้ทีมชาติออสเตรียต้องตกอยู่ในที่นั่งลำบาก กลับกันนี่อาจจะเป็นทัวร์นาเมนต์ที่น่าจดจำของ ราล์ฟ รังนิก เลยก็ได้

ผู้เล่นน่าจับตามอง
“มาร์เซล ซาบิตเซอร์”

ลงเล่นให้ทีมชาติ : 78 นัด (2012-ปัจจุบัน)
มาร์เซล ซาบิตเซอร์ ห้องเครื่องจากทีมโบรุสเซีย ดอร์ตมุนด์ นักเตะที่ลงเล่นให้กับทีมชาติมามากว่า 10 ปี ถึงแม้ว่าตัวของเขาอาจจะไม่ใช่กองกลางพรสวรรค์สูงเหมือนกับนักเตะคนอื่น แต่ด้วยความใจสู้และวิธีการเล่นที่ดุดัน วิ่งไม่มีหมด ทำให้ตัวเขากลายเป็นหนึ่งในคีย์แมนสำคัญของทีมที่เป็นคนกำหนดความเป็นไปของทีมได้เหมือนกัน ถึงแม้เขาจะมีฟอร์มที่ไม่ดีนัก ในการเล่นให้ดอร์ตมุนด์ก็ตาม แต่ยามที่เขาได้ลงเล่นทีมชาติแล้ว มักจะมีฟอร์มที่ดี จึงถือเป็นคนที่น่าจับตามองของออสเตรียคนหนึ่งเลย

“คริสตอฟ บอมการ์ทเนอร์”

ลงเล่นให้ทีมชาติ : 36 นัด (2020-ปัจจุบัน)
มิดฟิลด์ตัวรุกคนสำคัญ ดาวโรจน์จาก แอร์เบ ไลป์ซิก วัย 24 ผู้มาแทนที่ของโดมินิก โซบอสไล อดีตจอมทัพคนเก่าของทีม และทำผลงานได้ดี จนกลายมาเป็นหนึ่งความหวังในการเล่นเกมรุกของทีม ด้วยทักษะและความสามารถที่ยอดเยี่ยม เขาจึงเป็นอีกหนึ่งคนที่น่าจะมีศักยภาพมากพอที่จะโดดเด่นขึ้นมาได้ในทัวร์นาเมนต์นี้ เป็นอีกหนึ่งนักเตะที่น่าติดตามฟอร์ม โดยเฉพาะเมื่ออยู่ในมือของ ราล์ฟ รังนิก

โอกาสเข้ารอบ
ทีมชาติออสเตรีย อยู่ในกลุ่มเดียวกับเนเธอร์แลนด์, ฝรั่งเศส, โปแลนด์ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในกลุ่มที่หินที่สุดกลุ่มหนึ่งเลยก็ว่าได้ ฉะนั้นการต้องมาอยู่กลุ่มนี้ เป็นดั่งบทพิสูจน์ที่ยิ่งใหญ่ของทีมชาติออสเตรีย เพราะการจะผ่านเข้ารอบต่อไปด้วยการเอาชนะทีมอย่างทีมชาติเนเธอร์แลนด์และทีมชาติฝรั่งเศส เป็นเรื่องที่ยาก ต้องเป็นทีมที่เขี้ยวมากๆ หากหวังจะเข้ารอบต่อไป อย่างน้อยในฐานะอันดับที่ 3 ที่ดีที่สุด และจำเป็นอย่างยิ่งต้องเอาชนะทีมชาติโปแลนด์ เพื่อเป็นการเก็บคะแนนให้ได้มากที่สุด นี่คือโจทย์ที่ ราล์ฟ รังนิก จะต้องวางแผนและทำการบ้ารมาเป็นอย่างดี

โปรแกรมฟุตบอลยูโร 2024 ของทีมชาติออสเตรีย
วันอังคารที่ 18 มิถุนายน เวลา 02.00 น. (คืนวันจันทร์ที่ 17 มิถุนายน) : พบ ฝรั่งเศส
วันศุกร์ที่ 21 มิถุนายน เวลา 23.00 น. : พบ โปแลนด์
วันอังคารที่ 25 มิถุนายน เวลา 23.00 น. : พบ เนเธอร์แลนด์